เปิดฟ้าเมืองตรัง Post by : Naitredtrei : 2009-04-20 19:19:37 Powered by : travel-is.com

เปิดฟ้าเมืองตรัง

สวัสดีครับชาว Travel-is หายหน้าหายตาไปนาน ช่วงสงกรานต์นี้ไปไหนกันมาบ้างครับ หลังจากที่ 2
ปีที่แล้วผมเคยพาไปเปิดเมืองสงขลามาแล้ว ปีนี้ผมเลยตั้งใจลงใต้ไปเปิดเมืองอีกเมืองหนึ่ง
ซึ่งเรียกได้ว่าจะพาไปเที่ยวเมืองนี้กันแบบเต็มพิกัดเลยครับ ในช่วงฤดูกาลแห่งท้องทะเลเช่นนี้
ลองตามกันไปดูนะครับว่าผมจะไปไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง กับทริป เปิดฟ้าเมืองตรัง

Post by : Naitredtrei [2009-04-20 19:19:37]

[ 1 ] Page 2 [ 3 ]

Comment : 51

แสงสุดท้ายยามเย็น

Post by : Naitredtrei [2009-04-20 22:16:16]

Comment : 52

โรงแรมศรีตรัง โรงแรมที่ได้บรรยากาศแบบจีนๆ ในเมืองตรัง

ค่ำคืนนี้หลังมื้อเย็น พาไปสักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม บนเขาในเมืองตรังกันครับ

ส่งท้ายค่ำคืนวันที่สอง กันที่หอนาฬิกายามราตรีครับ ค่ำคืนนี้ราตรีสวัสดิ์.

Post by : Naitredtrei [2009-04-20 22:20:20]

Comment : 53

เช้าวันที่ 3 ในเมืองตรังกับอีกหนึ่งร้านบรรยากาศเท่ห์ๆ ร้านนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมธรรมรินทร์
ธนาครับ

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:26:49]

Comment : 54

ร้านนี้ถูกตกแต่งด้วยภาพเก่าๆ และข้าวของเครื่องใช้รุ่นเก๋า ที่หาชมได้ยาก บรรยากาศดีทีเดียวครับ

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:28:39]

Comment : 55

ไม่ใช่แค่เพียงรูปแบบร้านที่ดูดีเท่านั้นอาหารในร้านก็น่าตาน่าทานทีเดียว อร่อยด้วย อิอิ

อยากทานกันอ่ะดิ อิอิ

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:30:47]

Comment : 56

วันนี้หลังมื้อเช้า เราเริ่มต้นมุ่งหน้าสู่ อ.กันตัง อีกครั้ง วันนี้ช่วงเช้าเราจะมาตระเวณเที่ยว
อ.กันตัง กันครับ

เริ่มต้นกันที่ สถานีรถไฟกันตัง สถานีรถไฟเก่าแก่ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีครับ

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:38:03]

Comment : 57

สถานีรถไฟสีเหลืองสลับน้ำตาล บานประตูไม้เป็นบานเฟี้ยมแบบเก่า เสาอาคารมีลายฉลุไม้ประดับ
บ่งบอกถึงความเก่าแก่ของสถานีรถไฟแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
และนี่แหละที่ทำให้สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานีรถไฟที่คลาสสิคสุดๆ ในเมืองตรัง

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:41:24]

Comment : 58

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:46:42]

Comment : 59

สีเหลืองสุดคลาสสิค

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:48:19]

Comment : 60

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:50:19]

Comment : 61

บรรยากาศโดยรอบของสถานีรถไฟแห่งนี้ ร่มครึ้มไปด้วยความเขียวชอุ่มของแมกไม้
ตัดกับสีเหลืองของสถานีแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:56:21]

Comment : 62

ร่มรื่นใต้ร่มไม้

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 10:57:57]

Comment : 63

จากสถานีรถไฟสีเหลืองสุดคลาสสิค เราเดินทางมาสานต่อความคลาสสิคอีกซักแห่งที่
พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือบ้านพระยารัษฎาฯ

เรือนไม้ปั้นหยาสองชั้น สีฟ้า ที่เคยเป็นบ้านพักของพระยารัษฎาฯ ในสมัยที่ท่านเป็นผู้ว่าราชการเมืองตรัง
ทุกวันนี้กลับกลายเป็นพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่า ที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี
ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของพระยารัษฎาฯ และมีภาพถ่ายเก่าแก่อายุร่วมร้อยปีจัดแสดงให้ได้ชมด้วยครับ

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:03:45]

Comment : 64

หุ่นขี้ผึ้งของพระยารัษฎานุนุประดิษฐ์มหิศรภักดี ภายในชั้นล่างของบ้าน

ภาพถ่ายโบราณอายุร่วมร้อยปี ภายในห้องจัดแสดงชั้นล่าง

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:08:39]

Comment : 65

พาขึ้นไปชมชั้นบนกันบ้าง

ห้องโถงกลางบ้าน ชั้นบน

ภาพเก่าแก่ริมทางเดิน

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:10:55]

Comment : 66

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:14:38]

Comment : 67

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:18:06]

Comment : 68

ห้องสีฟ้า ปีกขวาชั้นบนของบ้าน

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:21:32]

Comment : 69

บริเวณด้านหลังบ้าน เป็นบรรยากาศของเรือนไม้แบบเก่า

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:23:58]

Comment : 70

จากบ้านพระยารัษฎาฯ เราเดินทางต่อมาชม ต้นยางพาราต้นแรกของประเทศไทย

ต้นยางพาราต้นนี้เป็นต้นยางพาราเก่าแก่ อายุร่วม 100 ปี เลยทีเดียว
ถือได้ว่าเป็นต้นยางพาราต้นแรกที่นำมาปลูกในประเทศไทย จริงๆ แล้วต้นยางพาราต้นนี้ เป็นหนึ่งในต้นยางพารา
ที่ปลูกรวมอยู่ในสวนยางพารารุ่นแรก ซึ่งพระสถลสถานพิทักษ์ ( คออยู่เกียด ณ ระนอง )
ผู้เป็นหลานของพระยารัษฎาฯ นำมาทดลองปลูกไว้ใกล้บ้านพักที่เมืองกันตัง
โดยนำเมล็ดพันธุ์มาจากประเทศมาเลเซียครับ ซึ่งเมื่อทดลองปลูกจนประสบความสำเร็จแล้ว
จึงได้มีการขยายพันธุ์ และปลูกไปจนทั่วภาคใต้ สวนยางพารารุ่นแรกจึงยกเลิกไป
โดยเหลือต้นยางพาราไว้เพียงต้นเดียวเพื่อเป็นอนุสรณ์ ว่านี่คือ ต้นยางพาราต้นแรกของประเทศไทย

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:28:44]

Comment : 71

จากนั้นเราเดินทางกันต่อพาไปกราบนมัสการพระพุทธรูปหินอ่อน ที่อัญเชิญมาจากประเทศพม่า ที่
วัดตรังคภูมิพุทธาวาส ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ถูกอัญเชิญมาเมื่อครั้งสร้างเมืองกันตัง
นับว่าเป็นพระพุทธรูปหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดใน จ.ตรัง เลยนะครับ

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:32:34]

Comment : 72

จาก อ.กันตัง เราต้องหยุดเดินทางกันต่อเนื่องจากเจอสายฝน เราจึงต้องเข้าสู่ที่พักกันก่อน ที่
หาดปากเมง และที่พักของเราในวันนี้อยู่ที่ เลตรัง รีสอร์ท ส่วนนี่คือบ้านพัก 2 ชั้น
ของเราในวันนี้ครับ

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:37:17]

Comment : 73

บ่ายแก่ๆ เราออกล่องเรือสู่ท้องทะเล บริเวณหาดปากเมง ชมความงามของขุนเขา และเกาะน้อยใหญ่ในบริเวณนี้

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:46:54]

Comment : 74

ขุนเขากับเงาน้ำ

สะท้อนน้ำ

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:48:26]

Comment : 75

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:53:10]

Comment : 76

เรือพาเราลอยล่องมาถึง หาดราชมงคล กันเกือบๆ เย็น บริเวณชายหาดแห่งนี้น้ำทะเลไม่สวยใสเท่าไรครับ
แต่ก็บรรยากาศไม่เลวนะครับ

ท้องฟ้าสีครึ้ม

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 11:58:13]

Comment : 77

ขากลับ เราได้ภาพของชาวประมงกลับมาด้วย 555

มุมมอง และหน้าตาได้เลยนะน้องก่อ อิอิ

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 12:00:22]

Comment : 78

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 12:03:38]

Comment : 79

ทะเลยามโพล้เพล้

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 12:05:05]

Comment : 80

หาดปากเมงยามเย็น

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 12:07:07]

Comment : 81

แสงสุดท้าย

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 12:08:09]

Comment : 82

วันนี้มื้อเย็นเราอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลแบบเต็มอิ่ม ที่ ร้านเกาะปู เกาะปลา ริมหาดปากเมง
สิ้นสุดการเดินทางวันที่ 3 ตรงนี้นะครับ.

Post by : Naitredtrei [2009-04-21 12:11:59]

Comment : 83

เช้าวันใหม่กับบรรยากาศยามเช้าที่ หาดปากเมง

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 10:59:00]

Comment : 84

จากปากเมง หลังมื้อเช้า เราเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองตรังกันอีกครั้ง
และกลับมาเริ่มต้นกันที่หอนาฬิกาอีกครั้ง

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:05:11]

Comment : 85

ลงมาเที่ยวไกลถึงเมืองตรังทั้งที ต้องไปเยี่ยมชม บ้านของอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย
ไม่งั้นจะหาว่ามาไม่ถึง
บรรยากาศร่มรื่นกันตั้งแต่ทางเข้าเลย

บ้านหลังนี้แหละที่ท่านกับคุณแม่อยู่เวลาลงมาที่ตรังครับ แต่ช่วงนี้ท่านไม่อยู่ทั้งคู่ครับ

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:11:15]

Comment : 86

เรือนไม้ด้านข้างครับ

กรงนกภายในบริเวณบ้านครับ

หลังนี้อยู่ในสุดครับ เป็นของน้องชายของท่านครับ

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:14:41]

Comment : 87

จากบ้านอดีตของคุณชวน วันนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศพาทุกคนนั่งตุ๊กตุ๊กหน้ากบชมเมือง เพื่อมุ่งหน้าไปยัง
อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:23:03]

Comment : 88

อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี
ตอนไปเที่ยวบ้านของท่านที่ อ.กันตัง ลืมเล่าประวัติของท่าน หลายคนอาจสงสัยว่าท่านเป็นใคร
และมีความสำคัญอย่างไรกับเมืองตรัง จึงขอเล่าประวัติของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ฉบับย่อๆ
ให้ได้รู้จักกันซักหน่อยนะครับ

พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือคอซิมบี้ ณ ระนอง เป็นบุตรของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (
คอซูเจี้ยง ณ ระนอง ) ท่านได้เข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็กในพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่
5 จากนั้นได้มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในปี พ.ศ. 2433 ด้วยอายุเพียง 33 ปีเท่านั้น

ท่านเป็นผู้มองการณ์ไกล และเป็นผู้วางรากฐานสำคัญในหลายๆ ด้านให้กับเมืองตรัง ผลงานที่โดดเด่นของท่านก็
คือ การนำต้นยางพารามาทดลองปลูกในเมืองไทยเป็นครั้งแรก เมืองตรังในสมัยของท่านมีความสงบ
เป็นระเบียบเรียบร้อย ปราศจากโจรผู้ร้าย คนเมืองตรังจึงให้ความเคารพนับถือท่านกันมาก

ใครมาเยือนเมืองตรัง ก็อย่าลืมมาสักการะท่านที่ อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:28:24]

Comment : 89

จากอนุสาวรีย์พระยารัษฎาฯ เราเปลี่ยนรถเพื่อเดินทางกันต่อ เรามุ่งหน้าออกจากตัวเมืองมาซักหน่อย
เพื่อมาแวะไหว้พระกันที่ วัดภูเขาทอง

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:31:11]

Comment : 90

บรรยากาศร่มรื่นภายในวัด

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:33:02]

Comment : 91

และไฮไลท์ของวัดนี้อยู่ที่ พระนอนทรงเครื่องมโนราห์ แห่งวัดภูเขาทอง ครับ หาชมได้ยากมากๆ

พระนอนทรงเครื่องมโนราห์ แห่งวัดภูเขาทอง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นโบราณ ปางปรินิพพาน
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยศรีวิชัย พระนอนองค์นี้มีความยาว 9 เมตรครับ
ความแปลกอยู่ตรงที่พระนอนองค์นี้สวมเทริดแบบมโนราห์ไว้ที่พระเศียรด้วย

พระนอนองค์นี้ประดิษฐานอยู่ที่บริเวณเพิงหน้าผา ว่ากันว่า พระนางเลือดขาว
ได้นำทรัพย์สมบัติมาซ่อนไว้ในถ้ำด้านหลังองค์พระนอน โดยหลังจากซ่อนทรัพย์สมบัติเรียบร้อยแล้ว
จึงได้สร้างพระนอนปิดปากถ้ำเอาไว้

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:35:01]

Comment : 92

ส่งท้ายก่อนกลับบ้านพามาแวะเที่ยวอีกซักแห่ง ที่ อ.ห้วยยอด ครับ มาที่นี่ต้องมาลอดท้องมังกรที่
ถ้ำเลเขากอบ

เมื่อมาถึงก็ต้องมาเข้าคิวรอลงเรือพายที่จะนำเราเข้าสู่ภายในถ้ำครับ แต่ต้องบอกนิดนึงครับว่า
ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก อาจต้องรอคิวกันนานเลยทีเดียว และในช่วงหน้าน้ำ
ฤดูฝนถ้ำอาจจะปิด เพราะไม่สามารถพายเรือลอดเข้าไปได้ครับ

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:41:36]

Comment : 93

บรรยากาศร่มรื่นริมสองฝั่งคลอง

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:44:46]

Comment : 94

ถ้ำเลเขากอบ เป็นถ้ำหินปูนที่มีหินงอกหินย้อยสวยๆ ซุกซ่อนอยู่ครับ
ที่บอกว่าซุกซ่อนอยู่ก็เพราะว่าการจะเข้าไปชมความสวยงามของหินงอกหินย้อยที่สวยงามภายในถ้ำนี้นั้นจะต้อง
นั่งเรือลอดเข้าไปเพียงทางเดียวเท่านั้น และมีหลายช่วงที่เพดานของถ้ำนั้นต่ำมากจนเกือบเสมอกราบเรือ
ดังนั้น พวกผมก็ถึงขั้นต้องนอนราบไปกับเรือ เพื่อความปลอดภัย
แต่เมื่อเข้าไปถึงภายในก็จะต้องตื่นตาไปกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่สรรสร้างโถงถ้ำมากมายอยู่ภายใน
อีกทั้งยังประดับหินงอกหินย้อยสวยงามแปลกตาไว้ให้เราได้ชื่นชมกันอีกด้วย

หินงอกสวยงามน่าชม

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:46:34]

Comment : 95

สมเป็นถ้ำใต้พิภพจริงๆ

ถึงทางออกแล้ว

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:48:55]

Comment : 96

พะยูนไม้แกะสลักจากไม้เทพทาโร ของฝาก อ.รัษฎา ออกมาด้านนอกถ้ำ อย่าลืมแวะชม
แวะซื้อเจ้าปลาพะยูนไม้แกะสลักตัวน้อย ของศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไม้เทพทาโร
ของฝากจากเมืองตรังอีกหนึ่งอย่างครับ

สิ้นสุดการเดินทาง 4 วันในเมืองตรังเพียงเท่านี้ครับ

เป็นไงบ้างครับกับการเดินทางตลุยเมืองตรังของพวกเราในทริปนี้ เรียกว่าพาไปเกือบทุก
อำเภอในเมืองตรังเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ อ.เมือง อ.กันตัง อ.ปะเหลียน อ.ย่านตาขาว อ.สิเกา และ
อ.ห้วยยอด หวังว่าทุกคนคงจะสนุก และได้ข้อมูลการเดินทางไปเที่ยวเมืองตรังแบบจุใจกันเลยนะครับ.

Post by : Naitredtrei [2009-04-22 11:50:51]

Comment : 97