เดินทาง ท่องเที่ยว ถ่ายรูป ทั่วไทย
 
 
เดินทาง ท่องเที่ยว ถ่ายรูป ทั่วไทยเรื่องเล่าทริปแกลเลอลี่เว็บบอร์ดลิงค์เกี่ยวกับเรา


 
 
 
 
 
ทริปเดินทางปี 2557

ทริปเดินทางปี 2557

เดือนมกราคม
- มัณฑะเลย์ - โมนยวา 11-14 มกราคม 2557 ( 4 วัน 3 คืน ) ( ลางาน 2 วัน ) ( เต็มแล้ว )

เดือนกุมภาพันธ์
- หยวนหยาง - โหลวผิง 13-18 กุมภาพันธ์ 2557 ( 6 วัน 5 คืน ) ( ลางาน 3 วัน )
- เกาะลันตา 22-23 กุมภาพันธ์ 2557 ( 2 วัน 1 คืน ) ( ไม่ต้องลางาน )

เดือนมีนาคม
- เตร็ดเตร่...ฮ่องกง 8-11 มีนาคม 2557 ( 4 วัน 3 คืน ) ( ลางาน 2 วัน ) ( เต็มแล้ว )
- Coron...ท่องท้องทะเลฟิลิปปินส์ 15-19 มีนาคม 2557 ( 5 วัน 4 คืน ) ( ลางาน 3 วัน ) ( เต็มแล้ว )
- ทริปพม่า ย่างกุ้ง - หงสาวดี - พระธาตุอินทร์แขวน - เมืองแปร 21-25 มี.ค. 2557 ( 5 วัน 4 คืน ) (
ลางาน 3 วัน )

เดือนเมษายน
- แคชเมียร์ อินเดีย ( ศรีนาการ์ - โซนามาร์ค - กุลมาร์ค - พาฮาลแกม ) 2-7 เมษายน 2557 ( 6 วัน 6 คืน )
( ลางาน 3 วัน )
- ญี่ปุ่น โตเกียว - โยโกฮาม่า - คามาคุระ - ฮาโกเน่ - ภูเขาไฟฟูจิ - นิกโก้ - คัทสึตะ 12-20 เมษายน
2557 ( 9 วัน 8 คืน ) ( ลางาน 2 วัน )

เดือนพฤษภาคม
- อลังการ 3 ภูเขาไฟ พินาตูโบ - ตาอัล - มายอน 30 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2557 ( 4 วัน 3 คืน ) ( ลางาน 1
วัน )
- ญี่ปุ่น โตเกียว - ฟูจิ - ทาเทยาม่า - แจแปนเอลป์ - ทุ่งดอก Nemophila สีฟ้า 8-14 พฤษภาคม 2557 ( 7
วัน 6 คืน ) ( ลางาน 4 วัน )

เดือนมิถุนายน
- มัลดีฟส์ 6-9 มิถุนายน 2557 ( 4 วัน 3 คืน ) ( ลางาน 2 วัน )

เดือนกรกฎาคม
เที่ยวเทศกาล 3 งานบุญ 11-13 กรกฎาคม 2557 ( 3 วัน 2 คืน )

เดือนสิงหาคม
- พิชิตรินจานี- ลอมบอก อินโดนีเซีย 9-13 สิงหาคม 2557 ( 5 วัน 4 คืน ) ( ลางาน 2 วัน )
- [Backpacker] ลาบวน - บรูไน 22-25 สิงหาคม 2557 ( 4 วัน 3 คืน ) ( ลางาน 2 วัน )

เดือนกันยายน
- [Backpacker] ตะลุยเมืองโบราณเจินหยวน - ซีเจียง 11-16 กันยายน 2557 ( 4 วัน 3 คืน ) ( ลางาน 4 วัน )
- [Slow Travel] แม่โถ-แม่วาง-แม่สะป๊อก จ.เชียงใหม่ 19-21 กันยายน 2557 ( 3 วัน 2 คืน ) ( ลางาน 1 วัน
)

เดือนตุลาคม
- แชงกรีล่า ( ต้าลี่ - ลี่เจียง - จงเตี้ยน ) ประเทศจีน 18-26 ตุลาคม 2557 ( 9 วัน 8 คืน ) ( ลางาน 4
วัน )

เดือนพฤศจิกายน
- [Trekking] ดอยหลวงตาก จ.ตาก 8-9 พฤศจิกายน 2557 ( 2 วัน 1 คืน ) ( ไม่ต้องลางาน )
- ฉ่งชิ่ง ประเทศจีน 13-16 พฤศจิกายน 2557 ( 4 วัน 3 คืน ) ( ลางาน 2 วัน )

เดือนธันวาคม
- 4 มรดกโลก หมู่ถ้ำมรดกโลกแห่งอินเดีย เอเลเฟนทา - อชันตา - แอลโลล่า - มุมไบ 4-10 ธันวาคม 2557 ( 5
วัน
5 คืน ) ( ลางาน 2 วัน )
- น่านในฝัน น่าน 13-15 ธันวาคม 2557 ( 3 วัน 2 คืน ) ( ลางาน 1 วัน )
- [Trekking] พิชิตดอยมด เชียงราย 20-21 ธันวาคม 2557 ( 2 วัน 1 คืน ) ( ไม่ต้องลางาน )
- พุกาม - อินเล - กะลอว์ - พินดายา - ตองยี - คัคคู พม่า 27 ธันวาคม 2557 - 4 มกราคม 2558 ( ลางาน 3
วัน )


Post by : Naitredtrei [2013-12-25 16:13:52] 27.145.80.105
Page 1


Comment : 1


ทริปพม่า 4 วัน 3 คืน 11-14 ม.ค. 2557 ( มัณฑะเลย์ - โมนยวา - อังวะ - สะกาย - อมรปุระ )

เส้นทางมหัศจรรย์ สวรรค์แห่งศรัทธา ร่วมพิธีล้างหน้าพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปที่คนพม่าเชื่อว่า
ได้พระพุทธเจ้าได้ประทานลมหายใจไว้ที่องค์พระ
สะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก

ทริปนี้ค่าใช้จ่ายคนละ 13,500 บาทครับ ราคานี้รวม
- ค่าเครื่องบินไป - กลับ กรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์ - กรุงเทพฯ
- ค่ารถและค่าเดินทางตลอดรายการ
- ค่าที่พัก 3 คืน
- ค่าเข้าชมวัดต่างๆ ในเมืองมัณฑะเลย์ - โมนยวา - อังวะ - สะกาย - อมรปุระ
- ค่าอาหาร 9 มื้อ


----------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปมัณฑะเลย์

1.Naitredtrei
2.พี่ตี๋
3.พี่จุ๋ม
4.พี่บู๊ท
5.พี่เปิ้ล
6.พี่เปิ้ล2
7.น้ำหวาน
8.พี่บุ๊ง
9.พี่เปิ้ล
10.ตูน
11.ต๊ะ
12.พี่ต๋อย
13.พี่ตุ๋ย
14.พี่วัชร์
15.พี่จิ๋ว
16.พี่นาง
17.คุณเตียง
18.คุณลักษณา
19.คุณยุทธพงศ์
20.คุณชมาภรณ์

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 16:17:21] 27.145.80.105

Comment : 2


หยวนหยาง - โหลวผิง 13-18 กุมภาพันธ์ 2557 ( 6 วัน 5 คืน )

24,000 บาท นี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ กรุงเทพฯ - คุนหมิง - กรุงเทพฯ
- ค่าวีซ่าเข้าประเทศจีน
- ค่าพาหนะตลอดทริป 6 วัน
- ค่าที่พัก 5 คืน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 2,000,000 บาท

** ค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่รวมค่าอาหารตลอดการเดินทางนะครับ


----------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปหยวนหยาง-โหลวผิง

1.Naitredtrei
2.พี่เพ็ญ
3.พี่เอ๋
4.พี่นัท
5.พี่ตี๋
6.พี่จุ๋ม
7.พี่หนุ่ย
8.พี่น้อย

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 16:35:53] 27.145.80.105

Comment : 3


เกาะลันตา จ.กระบี่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2557 ( 3 วัน 2 คืน )

วันแรก ( 21 กุมภาพันธ์ 2557 )

21.00 น. พร้อมกันที่ จุดนัดหมาย ปั๊ม ปตท.สนามเป้า
21.30 น. ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศหลังคาสูง Toyota Commuter D4D มุ่งหน้าสู่ จ.กระบี่

วันที่สอง ( 22 กุมภาพันธ์ 2557 )
เช้าวันใหม่ ที่ จ.กระบี่ เดินทางสู่ท่าเรือไปเกาะลันตา นำรถขึ้นแพขนานยนต์ ถึงเกาะลันตา
ที่บ้านศาลาด่าน จากนั้นพาเที่ยวตามชายหาดสวยๆ บนเกาะ อาทิ หาดคอกวาง หาดคลองดาว หาดพระแอะ
แล้วเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ยามบ่ายพาลงเรือไปเที่ยวเกาะบูบู เกาะบริวารเล็กๆ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างเต็มที่
ถ้าโชคดีคงมีโอกาสได้เจอนกเงือกกันบ้าง บ่ายแก่ๆ เดินทางเข้าสู่อุทยานฯ บริเวณแหลมโตนด
พักผ่อนเล่นน้ำตามอัธยาศัย ยามเย็นรอชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ กับประภาคารริมทะเล บริเวณแหลมโตนด
หลังพระอาทิตย์ตกดิน กลับเข้าสู่ที่พัก รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สาม ( 23 กุมภาพันธ์ 2557 )
วันนี้ตื่นกันแต่เช้า เพื่อมาสัมผัสบรรยากาศของท้องทะเลยามเช้า เล่นน้ำ หลังรับประทานอาหารเช้า
พาตระเวนเที่ยวหาดสวยๆ บนเกาะยามเช้ากันต่อเริ่มต้นที่หาดบากันเตียง หาดสวยแห่งเกาะลันตา
หาดคลองจาก หาดสวยอีกแห่ง จากนั้นไปเดินเล่นที่หมู่บ้านศรีรายา หมู่บ้านเก่าแก่บนเกาะ
ช่วงบ่ายเดินทางกลับสู่ฝั่งเตรียมตัวเก็บสัมภาระ ลงเรือและมุ่งหน้าสู่ฝั่ง

15.00 น. ลงแพขนานยนต์ เพื่อเดินทางกลับสู่ จ.กระบี่
17.00 น. ถึงฝั่งกระบี่ จากนั้นเดินทางกลับสู่ กทม.

ทริปนี้ ค่าใช้จ่าย 4,200 บาทครับ ราคานี้รวมค่ารถตู้ ค่าน้ำมัน ค่าเรือไป-กลับเกาะลันตา
ค่าเรือเที่ยวตามโปรแกรม ค่าอาหาร 6 มื้อ ค่าที่พัก 2 คืน และค่าเข้าอุทยานแห่งชาติแล้วนะครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 16:37:00] 27.145.80.105

Comment : 4


ฮ่องกง 11-14 มีนาคม 2556 ( 4 วัน 4 คืน )

ทริปนี้ค่าใช้จ่ายคนละ 15,000 บาทครับ
15,000 บาท นี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ - ฮ่องกง – กรุงเทพฯ
- ค่ารถรับส่งสนามบิน
- ค่าเดินทางตลอดรายการ
- ค่าที่พักตลอดทริป 3 คืน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม
- ค่าเข้าฮ่องกงดิสนีย์แลนด์
- ค่าขึ้นตึก Sky100
- ค่ารถราง The Peak
- ค่ากระเช้านอนปิง
- ค่ารถบัส 2 ชั้น ( Rickshaw Sightseeing Bus ) ชมเมืองฮ่องกง

** รายการใดที่ท่านไม่ประสงค์จะเข้าชมโปรดแจ้งล่วงหน้านะครับ จะหักค่าใช้จ่ายคืนให้ครับ


----------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปฮ่องกง

1.Naitredtrei
2.พี่แหม่ม
3.พี่อัง
4.พี่สังวาลย์
5.พี่พัช
6.พี่ณี
7.พี่เป้
8.ปุ๊บ

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 16:40:39] 27.145.80.105

Comment : 5


เกาะสวรรค์แห่งท้องทะเล Coron Island ฟิลิปปินส์ 14-19 มีนาคม 2557 ( 6 วัน 5 คืน )

26,600 บาท นี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ - มะนิลา - กรุงเทพฯ
- ค่าเครื่องบินไป-กลับ มะนิลา - Coron - มะนิลา
- ค่าเรือสำหรับเดินทางและท่องเที่ยวตามรายการ
- ค่าพาหนะตลอดทริป 6 วัน
- ค่าที่พักตลอดทริป 5 คืน
- ค่าอาหารตลอดทริป 15 มื้อครับ
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 2,000,000 บาท


----------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปเกาะ Coron

1.Naitredtrei
2.ตูน
3.พี่เพ็ญ
4.พี่แจน
5.พี่แจน2
6.พี่พี
7.พี่เอ๋
8.พี่ตอง
9.พี่คริส
10.พี่ญา

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 16:44:50] 27.145.80.105

Comment : 6


ทริปพม่า ย่างกุ้ง - หงสาวดี - พระธาตุอินทร์แขวน - เมืองแปร ( 5 วัน 4 คืน ) ( 21-25 มี.ค. 2557
)


ทริปนี้ค่าใช้จ่ายคนละ 18,000 บาทครับ ราคานี้รวมค่าเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่ารถตู้ 5 วัน ค่าน้ำมัน
ค่าที่พัก 4 คืน และค่าเข้าชมทุกวัดทุกที่ และค่าอาหาร 13 มื้อแล้วครับ

** ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมค่านำกล้องเข้าไปถ่ายรูปในแต่ละวัดนะครับ ปกติค่าถ่ายรูปวัดละไม่เกิน 1 USD ครับ
แต่ขออนุญาตไม่รวมนะครับ


----------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปพม่า ( มี.ค. )

1.Naitredtrei
2.พี่โหน่ง
3.พี่หนึ่ง
4.พี่ก้อย
5.พี่อุบล
6.พี่วุฒิ
7.พี่วุฒิ2
8.พี่วุฒิ3
9.พี่วุฒิ4
10.พี่วุฒิ5
11.พี่พี

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 16:53:16] 27.145.80.105

Comment : 7


แคชเมียร์ อินเดีย 2-7 เมษายน 2557 ( 6 วัน 6 คืน )

31,200 บาท นี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ กรุงเทพฯ - เดลี - กรุงเทพฯ
- ค่าเครื่องบินในประเทศ ไป-กลับ เดลี - ศรีนาการ์ - เดลี
- ค่าวีซ่าอินเดีย
- ค่าอาหารตลอดทริป 18 มื้อ
- ค่าพาหนะ ( Tempo Traveler ไม่มีแอร์ ) ตลอดทริป 6 วัน
- ค่ารถบัส 18 ที่นั่งสำหรับเที่ยวในอักราและเดลี
- ค่าที่พักตลอดทริป 5 คืน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 2,000,000 บาท


----------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปแคชเมียร์

1.Naitredtrei
2.พี่เอ๋
3.พี่หญิง
4.พี่เอ๊ะ
5.พี่นุ
6.ก้อง
7.พลอย
8.พี่แอน
9.พี่อารีวรรณ
10.พี่หนุ่ย
11.พี่หนุ่ย2
12.พี่หนุ่ย3
13.พี่หนุ่ย4
14.พี่บุ๊ง
15.ก้อง2

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 16:59:06] 27.145.80.105

Comment : 8


ทริปญี่ปุ่น โตเกียว - นิกโก้ - คามาคุระ - โยโกฮาม่า - ฮาโกเน่ - คาวากูชิโกะ - โอไดบะ - คุซัทสึ
ออนเซน ( 9 วัน 8 คืน ) ( 11-19 เม.ย. 2557 )


ทริปนี้ค่าใช้จ่ายคนละ 53,500 บาทครับ ราคานี้รวมค่าเครื่องบิน ค่าตั๋ว JR Kanto Pass ค่ารถบัส
และค่าเดินทางต่างๆ ตลอด 9 วัน ค่าที่พัก 8 คืน และค่าเข้าชมตามที่ระบุในโปรแกรมครับ

**ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมค่าอาหารตลอดการเดินทางนะครับ

ค่าเข้าชมที่รวมให้แล้วครับ
ค่าเข้าชม Tokyo Sky Tree
ค่าเข้าชมวัดรินโนจิ
ค่าเข้าชมสวน Shoyoen Park
ค่าเข้าชมศาลเจ้าโทโชกุ
ค่าเข้าชมศาลเจ้าฟุตาระซัง
ค่าเข้าชมวัดไทยูอิน
ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน


----------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปญี่ปุ่น ( เม.ย. )

1.Naitredtrei
2.พี่นัท
3.พี่ต๋อย
4.จิ
5.พี่แหม่ม
6.พี่เป้
7.พี่เบี้ยว
8.หมวย
9.พี่จิว
10.พี่จิว2
11.พี่เปิ้ล

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 17:05:30] 27.145.80.105

Comment : 9


สู่ดินแดนแห่งภูเขาไฟ 3 ภูเขาไฟแห่งฟิลิปปินส์ ภูเขาไฟมายอน - ตาอัล - พินาตูโบ ฟิลิปปินส์ 30
เมษายน - 4 พฤษภาคม 2557 ( 4 วัน 3 คืน )


ค่าใช้จ่ายท่านละ 24,500 บาท นี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ - มะนิลา / Clark - กรุงเทพฯ
- ค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ มะนิลา - Legazpi - มะนิลา
- ค่าภาษีสนามบินทั้งระหว่างประเทศ และภายในประเทศ
- ค่าพาหนะตลอดทริป 3 วัน
- ค่ารถจี๊ปขึ้นพินาตูโบ
- ค่าที่พักตลอดทริป 2 คืน
- ค่าอาหารตลอดทริป 12 มื้อ
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 2,000,000 บาท


----------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปภูเขาไฟพินาตูโบ

1.Naitredtrei
2.พี่ตอง
3.พี่อุ๊
4.พี่เจน
5.พี่หนิง
6.พี่เจิน
7.พี่ตั๋ง
8.น้องจั๋ง

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 17:08:12] 27.145.80.105

Comment : 10


ทริปญี่ปุ่น โทยาม่า - ฮิมิ - แจแปนแอลป์ - มัตสึโมโตะ - ภูเขาไฟฟูจิ - ทุ่งดอกไม้ ( 7 วัน 6 คืน )(
8-14 พ.ค. 2557 )


ทริปนี้ค่าใช้จ่ายคนละ 52,000 บาทครับ ราคานี้รวมค่าเครื่องบิน ค่าตั๋ว JR Pass ค่ารถบัสต่างๆ
และค่าเดินทางต่างๆ ตลอด 7 วัน ค่าที่พัก 6 คืน และค่าเข้าชมตามที่ระบุในโปรแกรมครับ

ค่าเข้าชมที่รวมให้แล้วครับ
ค่าโดยสารพาหนะต่างๆ ในเส้นทางสายแจแปนแอลป์
ค่าโดยสารพาหนะต่างๆ ในเส้นทางสายฮาโกเน่
ค่าเข้าชมปราสาทมัตสึโมโตะ
ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน
ค่ารถและค่าเข้าชมทุ่งพิงค์มอส
ค่าเข้าชม Hitachi Seaside Park


----------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปญี่ปุ่น ( พ.ค. )

1.Naitredtrei
2.พี่เอ๋
3.พี่โหน่ง
4.พี่พจนา
5.พี่สุชาดา
6.พี่ปู
7.พี่ไก่
8.น้องโม
9.พี่ตอง
10.พี่เอก
11.พี่น้ำค้าง

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2013-12-25 18:17:36] 27.145.80.105

Comment : 11


มัลดีฟส์ 5 - 9 มิถุนายน 2557 ( 4 วัน 3 คืน )

ค่าใช้จ่ายทริปนี้ท่านละ 40,500 บาท
ราคานี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ - มัลดีฟส์ - กรุงเทพฯ นน. สัมภาระ 30 กก.ทั้งไปและกลับ
- ค่าพาหนะในการเดินทางตลอดทริป 5 วัน
- กิจกรรมต่างๆ ตลอดรายการ
- ค่าที่พักตลอดทริป 3 คืน ( ในเมือง 1 คืน / ห้อง Deluxe Water Villa กลางทะเลของ Centara 2 คืน )
- ค่าอาหารตลอดทริป 9 มื้อ
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม


------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปมัลดีฟส์

1.Naitredtrei
2.พี่เอ๋
3.พี่ทุย
4.พี่ตอง
5.พี่อร
6.พี่นิด
7.น้องนัท
8.น้องนัท2
9.พี่นุช
10.พี่บอย

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 11:51:49] 171.98.81.97

Comment : 12


เที่ยวเทศกาล 3 งานบุญ 11-13 กรกฎาคม 2557 ( 3 วัน 2 คืน )

วันแรก ( 11 กรกฎาคม 2557 )

07.30 น. พร้อมกันที่ จุดนัดหมาย ปั๊ม ปตท.สนามเป้า
08.00 น. ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศหลังคาสูง Toyota Commuter D4D มุ่งหน้าสู่ จ.อยุธยา

เริ่มต้นเที่ยวอยุธยาด้วยการพาไปนมัสการพระนอน วัดสะตือ แห่ง อ.ท่าเรือ
วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 กล่าวกันว่าพระนอนแห่งวัดสะตือ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก
ขอพรสิ่งใดมักจะสมประสงค์ เมื่อไปถึงวัดจึงอาจได้ชมการแก้บนของผู้ที่มาขอพร ด้วยขบวนกลองยาวรำไปรอบๆ
องค์พระ ขอพรจากองค์พระแล้ว จากนั้นเดินทางสู่ อ.นครหลวง สู่ปราสาทนครหลวง
ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นตำหนักที่ประทับของกษัตริย์ในระหว่างเสด็จไปนมัสการพระพุทธบาท สระบุรี
และเป็นที่ประทับแรมในระหว่างเสด็จไปลพบุรี สันนิษฐานกันว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
แต่มาสร้างเป็นที่ประทับก่ออิฐถือปูนในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองเมื่อ พ.ศ.2174
พระองค์โปรดให้ช่างถ่ายแบบมาจากปราสาทศิลา“พระนครหลวง”ในประเทศ กัมพูชา
นำมาสร้างใกล้กับวัดเทพจันทร์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติที่ได้กรุงกัมพูชา กลับมาเป็นประเทศราชอีก
แต่สร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ด้วยประการใดไม่ปรากฏ องค์ปราสาทสีเหลืองงดงาม
ต่อมาจึงมีผู้สร้างมณฑปและพระพุทธบาทสี่รอยขึ้นบนปราสาทนี้
ส่วนตำหนักที่สร้างอยู่ข้างปราสาทนี้ได้ปรักหักพังไปหมดแล้ว บ่ายแก่ๆ เดินทางสู่อ.เมือง
พาเที่ยวชมวัดในกรุงเก่ากันต่ออีกซักหน่อย ก่อนไปเตรียมตัวเข้าพิธีเวียนเทียน ณ วัดมเหยงคณ์
วัดซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเวียนเทียนยามค่ำคืน ซึ่งจะมีการจุดประทีปโดยรอบบริเวณด้วย
หลังประกอบพิธีเวียนเทียนเสร็จแล้ว เดินทางเข้าสู่ที่พัก

คืนนี้พักกันที่พระนครศรีอยุธยา

วันที่สอง ( 12 กรกฎาคม 2557 )
เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้าขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศยามเช้า หามุมเก็บภาพบรรยากาศยามเช้า
หลังรับประทานอาหารเช้า
พาชมโบราณสถานยามเช้าอีกหน่อย ก่อนเดินทางสู่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เข้านมัสการรอยพระพุทธ ณ
วัดพระพุทธบาท เพื่อความเป็นสิริมงคล ชมมณฑปที่มีความงดงามวิจิตรและบานประตูมุกทั้งแปดบาน
มีลวดลายสวยงาม จากนั้นเตรียมตัวเข้าร่วมพิธีตักบาตรดอกไม้ ชมขบวนแห่บุปผชาติ
และขบวนแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เตรียมดอกไม้ โดยเฉพาะดอกเข้าพรรษาที่สามารถหาซื้อได้ในบริเวณงาน

15.00 น. พระภิกษุดำเนินบิณฑบาตร เป็นขบวนนับร้อยรูป เพื่อรับประเพณีการ ตักบาตรดอกไม้ จากพุทธศาสนิกชน
จากนั้นพระภิกษุจะนำดอกเข้าพรรษาที่ได้รับบิณฑบาตนั้นขึ้นไปบูชารอยพระพุทธบาท เสร็จพิธีแล้ว มุ่งหน้าสู่
จ.นครราชสีมา สถานที่จัดงานแห่เทียนพรรษา ณ ลานย่าโม สักการะท้าวสุรนารี และชมขบวนแห่เทียนพรรษาตระการตา
ก่อนเข้าสู่ที่พัก และเตรียมตัวออกมาเดินเที่ยวงานยามค่ำคืน โดยในช่วงค่ำจะมีการแสดง แสง สี
ชุดแห่เทียนโคราช Camival Night Light Candle ด้วยเทคนิคพิเศษ ชมรถเทียนมีแสง และ Street Art 4D Vision
Graphic 360 องศา จากนั้นเดินทางกลับสู่ที่พัก

ที่พัก คืนนี้พักกันที่นครราชสีมา

วันที่สาม ( 13 กรกฎาคม 2557 )
เช้าวันใหม่ หลังรับประทานอาหารเช้าแล้ว ไปเที่ยวชมงานแห่เทียนพรรษา และต้นเทียนแกะสลักสวยๆ
กันต่ออีกซักรอบ จากนั้นหาของอร่อยๆ ในโคราชทาน ก่อนเดินทางกลับ
ระหว่างทางแวะนมัสการหลวงพ่อโตพรหมรังสี องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่วัดโนนกุ่ม อำเภอสีคิ้ว
นครราชสีมา จากนั้นเดินทางกลับสู่ กทม.

ทริปนี้ค่าใช้จ่าย 2,900 บาทครับ ราคานี้รวมค่ารถตู้ ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก 2 คืน และค่าอาหาร 9 มื้อ
แล้วนะครับ
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 11:53:29] 171.98.81.97

Comment : 13


ลอมบอก - รินจานี 9 - 13 สิงหาคม 2557 ( 5 วัน 4 คืน )

วันแรก ( 9 สิงหาคม 2557 ) : กรุงเทพฯ - บาหลี - ลอมบอก

06.00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง
08.35 น. เดินทางสู่ บาหลี ประเทศอินโดนีเซียโดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน AK891 (ใช้เวลาบินประมาณ
2
ชั่วโมง ) ( เวลาที่มาเลเซียเร็วกว่าไทย 1 ชม. )
11.50 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ตามเวลาท้องถิ่น
12.30 น. หลังรับสัมภาระแล้ว รับประทานอาหารกลางวัน
13.30 น. เตรียมตัว Check in
15.35 น. ออกเดินทางสู่เกาะลอมบอก โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน AK306
(ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง ) ( เวลาที่บาหลีเร็วกว่าไทย 1 ชม. แต่เท่ากับมาเลเซียครับ )
18.45 น. ถึงท่าอากาศยาน Lombok จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พัก

วันที่สอง ( 10 สิงหาคม 2557 ) : Sembalun - Plawangan II Sembalun Crater Rim
06.00 น. เช้าวันใหม่ หลังทานอาหารเช้า เดินทางสู่หมู่บ้าน Sembalun ( 1,156 เมตร )
เพื่อไปยังจุดลงทะเบียนขึ้นรินจานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
จัดการเรื่องตั๋วและเตรียมตัวเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา เส้นทางในวันนี้เราต้องเดินเท้าประมาณ 7 กม.
โดยเส้นทางในช่วงแรกจะผ่านทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้าน จากนั้นจะค่อยๆ ชันขึ้นเรื่อยๆ ครับ
ระหว่างทางอาจพบร่องรอยของหมูป่า และลิงสีเทาหางยาว จนกระทั่งถึงที่พักในคืนนี้
โดยคืนนี้เราจะเข้าพักที่ Plawangan II Sembalun Crater Rim ที่ระดับความสูง 2,635 เมตรจากระดับน้ำทะเล
วันนี้เข้านอนเร็วกันหน่อยนะครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตี 3

วันที่สาม ( 11 สิงหาคม 2557 ) : รินจานี - ทะเลสาบ Segara Anak - Plawangan 1 Senaru Crater
Rim

03.00 น. เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้าหลังหาอะไรรองท้องแล้ว เริ่มเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขา
เส้นทางช่วงนี้เดินขึ้นยากซักหน่อยครับ โดยยอดที่เราจะต้องไปพิชิตเช้านี้อยู่ที่ความสูง 3,726 เมตร
จากระดับน้ำทะเล โดยเราควรจะขึ้นแต่เช้าเพื่อจะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าครับ โดยน่าจะถึงไม่เกิน 6
โมงครึ่งครับ อุณหภูมิบนยอดเขาประมาณ 5-10 องศาครับ ชมทิวทัศน์บนยอดเขาแล้ว
เดินเท้ากลับสู่จุดตั้งแค้มป์ รับประทานอาหารเช้า ( น่าจะประมาณ 10 โมง
ดังนั้นขอให้ติดอาหารรองท้องและน้ำดื่มไปเพื่อหิวระหว่างทางด้วยครับ ) หลังทานอาหารเช้าแล้ว
เก็บแค้มป์แล้วเดินทางลงสู่ทะเลสาบ Segara Anak ( 2,000 เมตร )
ซึ่งเป็นทะเลสาบที่อยู่ในปากปล่องของรินจานี ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมง โดยภายในทะเลสาบแห่งนี้
ยังมีภูเขาไฟ Baru อีกหนึ่งภูเขาไฟที่ยังตื่นตัวอยู่ และเคยระเบิดครั้งล่าสุดในปี 1994 ด้วยครับ
ที่ทะเลสาบใครอยากจะเล่นน้ำ หรือไปชมน้ำพุร้อนตามสบายเลยครับ
รับประทานอาหารกลางวันช่วงบ่ายกันริมทะเลสาบ จากนั้นเดินเท้ากันต่อสู่จุดตั้งแค้มป์คืนนี้ที่ Plawangan
1 Senaru Crater Rim ที่ระดับความสูง 2,461 เมตรจากระดับน้ำทะเล ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2
ชั่วโมงครึ่งครับ

วันที่สี่ ( 12 สิงหาคม 2557 ) : Senaru - Senggigi
เช้าวันนี้ หลังรับประทานอาหารเช้า เดินทางยาวลงสู่ หมู่บ้าน Senaru ( 601 เมตร )
เส้นทางในวันนี้ส่วนใหญ่จะผ่านผืนป่าเขตร้อน ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6-7 ชั่วโมง ถึงหมู่บ้านประมาณบ่าย
2
แล้วขึ้นรถต่ออีก 2 ชั่วโมง เพื่อเข้าสู่ที่พักที่ Senggigi

วันที่ห้า ( 13 สิงหาคม 2557 ) : ลอมบอก - บาหลี - กรุงเทพฯ
วันนี้ตื่นตั้งแต่เช้ามืด รับประทานอาหารเช้า
09.00 น. เดินทางสู่สนามบิน Lombok
10.00 น. ถึงสนามบิน Lombok และ Check in
12.15 น. ออกเดินทางสู่กัวลาลัมเปอร์ โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน AK309 ( ใช้เวลาบินประมาณ 3
ชั่วโมง )
15.25 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์
16.00 น. Check in เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ
18.00 น. เดินทางกลับสู่ กทม. โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน AK892
19.05 น. ถึงสนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ

24,500 บาท นี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ กรุงเทพฯ - กัวลาลัมเปอร์ – กรุงเทพฯ
- ค่าเครื่องบินในประเทศไป-กลับ กัวลาลัมเปอร์ - ลอมบอก – กัวลาลัมเปอร์
- ค่าภาษีสนามบินอินโดนีเซีย
- ค่าอาหารตลอดทริป 13 มื้อ
- ค่ามัคคุเทศก์นำทาง
- ค่าลูกหาบส่วนกลาง
- ค่าพาหนะตลอดทริป 4 วัน
- ค่าที่พักตลอดทริป 4 คืน ( โรงแรม 2 คืน / เต้นท์ 2 คืน+ถุงนอน )
- ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติรินจานี
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 2,000,000 บาท

ค่าใช้จ่ายที่ไม่รวม
- ค่าลูกหาบสัมภาระส่วนตัว


------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปรินจานี

1.Naitredtrei
2.พี่เอ๋
3.พี่น็อต
4.พี่อ้อ
5.พี่แอ๊น
6.พี่บุ้ง
7.คุณเนย
8.คุณหนุ่ม
9.น้องโบว์
10.พี่จิก
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 11:56:48] 171.98.81.97

Comment : 14


ลาบวน - บรูไน 22 - 25 สิงหาคม 2557 ( 5 วัน 5 คืน )

วันแรก ( 21 สิงหาคม 2557 ) : กรุงเทพ - กัวลาลัมเปอร์

18.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น4
20.20 น. เดินทางสู่ ประเทศมาเลเซียโดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน AK889
( ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. )
23.25 น. เดินทางถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ( เวลาที่มาเลเซียและบรูไนเร็วกว่าเมืองไทย
1 ชม. ) คืนนี้หาที่นอนกันในสนามบิน

วันที่สอง ( 22 สิงหาคม 2557 ) : กัวลาลัมเปอร์ - ลาบวน - บรูไน
05.45 น. เช็คอินตั๋วโดยสารเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อ
07.35 น. บินลัดฟ้าสู่เมืองลาบวน โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบินที่ AK5176 ( ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.
ครึ่ง )
10.00 น. ถึงสนามบินลาบวน ประเทศมาเลเซีย
10.30 น. เดินทางออกจากสนามบิน
เกาะลาบวน เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างบรูไนกับรัฐซาบาห์ของมาเลเซีย
เกาะนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นท่าเรือปลอดภาษี เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
เป็นจุดที่กองทัพญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามต่อกองทัพออสเตรเลียน หลังนำสัมภาระเข้าสู่ที่พักแล้ว
เริ่มต้นท่องเที่ยวในลาบวน โดยพาไปชมความสวยงามของมัสยิด An’Nur Jamek มัสยิดรูปทรงแปลกตา
และเป็นมัสยิดแห่งเดียวบนเกาะลาบวน ซึ่งสร้างโดยสุลต่านประจำรัฐยะโฮห์ มีมูลค่าการก่อสร้างถึง 11
ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นมัสยิดที่มีความสวยงามแปลกตาน่าชม
จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้านกลางน้ำหมู่บ้านปาตาอู-ปาตาอู และหมู่บ้านเบบูโละ
ชมบ้านเรือนทรงมาเลย์ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีนั้น จากนั้นเดินเที่ยวชมเมือง
และแวะเลือกซื้อของฝากกันที่ตลาดสินค้าปลอดภาษี ที่นี่เราสามารถเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ขึ้นชื่อของเกาะลาบวน จำพวก เหล้า เบียร์ บุหรี่ ช็อกโกแลต น้ำหอม เสื้อผ้ามาเลย์
ได้ในราคาที่ถูกมาก จากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือ
15.30 น. เตรียมตัวเดินทางสู่เฟอร์รี่
16.30 น. ขึ้นเรือเฟอร์รี่
17.30 น. ถึงบันดาร์ เสรี เบกาวัน นครหลวงของประเทศบรูไน ดารุสซาราม
หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว มุ่งหน้าเข้าสู่ที่พักในบรูไน พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สาม ( 23 สิงหาคม 2557 ) : บรูไน
เช้าวันใหม่เริ่มตะลุยเที่ยวบรูไน เริ่มต้นที่ มัสยิดทองคำ Jame Ar’ Hassanil Bolkiah Mosque
มัสยิดที่สง่างาม และศักดิ์สิทธิ์ของชาวบรูไน ที่ใช้งบประมาณในการสร้างมหาศาล
โดยมีการนำเข้าวัสดุการก่อสร้าง และตกแต่งจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ หินอ่อนจากอิตาลี แกรนิตจากเซี่ยงไฮ้
กระจกแต่งบานหน้าต่างจากอังกฤษ และพรมชั้นหนึ่งจากเบลเยี่ยมและซาอุดิอาระเบีย สร้างขึ้นในโอกาสฉลอง 25
ปี แห่งการครองราชย์ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน เริ่มก่อสร้างในปี 1987 และสร้างเสร็จในปี 1994
ใช้เวลาก่อสร้างถึง 7 ปี มัสยิดทองคำแห่งนี้เป็นมัสยิดแห่งชาติของบรูไน
และมีสถาปัตยกรรมสวยงามที่สุดในบรูไน

จากนั้นเดินทางไปชมความอลังการของ พระราชวังหลังคาทองคำ อิสตาน่า นูรูล อีมาน
ซึ่งเป็นที่ประทับขององค์สุลต่านและพระราชวงศ์ อีกทั้งยังเป็นทำเนียบรัฐบาลด้วย มีห้องต่างๆ ถึง 1,788
ห้อง สร้างอยู่บนพื้นที่ 300 เอเคอร์ โรงรถมีที่จอดรถกว่า 350 คัน
และได้รับการยกย่องจากกินเนสบุ๊กเวิลด์เรคคอร์ด
ว่าเป็นพระราชวังที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นทั้งภายในและภายนอก

จากนั้นชมมัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน มัสยิดเก่าแก่อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบรูไน
ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน มัสยิดหลังนี้ออกแบบและดำเนินการสร้างโดยสุลต่านโอมาร์ อาลี
ไซฟัดดินที่ 3 พระราชบิดาของสุลต่านองค์ปัจจุบัน และสร้างเสร็จในปีค.ศ.1958
พระองค์ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปนิกสมัยใหม่ของบรูไน มัสยิคนี้มีความงดงามจนได้ชื่อว่า
มินิทัชมาฮาล

วันที่สี่ ( 24 สิงหาคม 2557 ) : บรูไน

เช้าวันใหม่ ลงเรือเพื่อเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติอูลู เทมบูรง ( Ulu Temburong )
ผืนป่าดิบชื้นขนาดใหญ่กลางเกาะบอร์เนียวที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของบรูไน อยู่ทางใต้ของเขตบูรง
เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด โดยเฉพาะลิงจมูกยาว และผีเสื้อราชาบรูก
สัตว์ที่พบได้ที่นี่ที่เดียวบนเกาะบอร์เนียว ล่องเรือชมธรรมชาติของผืนป่า
รับประทานอาหารกลางวันริมสายน้ำ และตื่นเต้นกับการเดินบน Canopy Walk ข้ามผืนป่าเหนือยอดไม้ ณ ความสูง
340 เมตรจากระดับน้ำทะเล ยามเย็นเดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก

วันที่ห้า ( 25 สิงหาคม 2557 ) : บรูไน - กัวลาลัมเปอร์ - กรุงเทพฯ
เช้าวันนี้ เดินเที่ยวเล่นรอบๆ เมืองเก็บบรรยากาศกันอีกซักรอบ
13.00 น. เดินทางสู่สนามบิน
14.00 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติบันดาร์ เสรี เบกาวัน เช็คอินตั๋วโดยสาร
15.55 น. บินลัดฟ้าสู่เมืองกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบินที่ AK279
( ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. )
18.20 น. เดินทางถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์
19.00 น. เช็คอินเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
20.50 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ FD316 ( ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. )
22.00 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 12,000 บาท
- ค่าเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ กรุงเทพฯ - กัวลาลัมเปอร์ - กรุงเทพฯ
- ค่าเครื่องบินภายในประเทศไป-กลับ กัวลาลัมเปอร์ - ลาบวน / บรูไน - กัวลาลัมเปอร์
- ค่าเรือเฟอร์รี่ลาบวน - บรูไน
- ค่าที่พักตลอดทริป 3 คืน
- ค่าอาหารตลอดทริป


------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปลาบวน-บรูไน

1.Naitredtrei
2.พี่ตอง
3.พี่บี๋
4.พี่เม้ง

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 11:57:05] mail not show 171.98.81.97

Comment : 15


แม่โถ - แม่วาง - แม่สะป๊อก จ.เชียงใหม่ 19-21 กันยายน 2557 ( 3 วัน 2 คืน )

วันแรก ( 18 กันยายน 2557 )

20.30 น. พร้อมกันที่ จุดนัดหมาย ปั๊ม ปตท.สนามเป้า
21.00 น. ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศหลังคาสูง Toyota Commuter D4D มุ่งหน้าสู่ จ.เชียงใหม่

วันที่สอง ( 19 กันยายน 2557 )

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่เชียงใหม่ มุ่งหน้าเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติแม่โถ อ.ฮอด
ระหว่างทางแวะเที่ยวพัทยาแห่งเมืองฮอด ชมบรรยากาศกันซักเล็กน้อย จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ
บ้านพักอุทยาน จากนั้นเดินทางไปชมโครงการหลวงแม่โถ ชมผักผลไม้เมืองหนาว และชมจุดชมวิวสวยๆ ของดอยแม่โถ
ก่อนเดินทางกลับสู่บ้านพัก

คืนนี้พักกันที่อุทยานแห่งชาติแม่โถ

วันที่สาม ( 20 กันยายน 2557 )
เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้าขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศยามเช้า หามุมเก็บภาพบรรยากาศยามเช้า
หลังรับประทานอาหารเช้าให้เวลา เที่ยวรอบๆ กันอีกซักพัก จากนั้นมุ่งหน้าสู่ อ.แม่วาง เดินทางสู่
ผาช่อ และกิ่วเสือเต้น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นของอุทยาน
ที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของตะกอนจากแม่น้ำปิง เมื่อหลายพันปีที่ก่อตัวเป็นชั้นๆ ลวดลายสวยงาม
และมีความสูงถึง 30 เมตร หลังเข้าที่พักแล้ว เดินทางสู่บ้านแม่สะป๊อก
หมู่บ้านชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่ยังคงวิถีชีวิตของชาวเขาให้ได้ชม ชมการทอผ้า จากนั้นชมผืนนาสวยๆ
ที่บ้านแม่สะป๊อก ต่อด้วยการเข้าชมความงามน้ำตกแม่วาง
จากนั้นเดินทางสู่โครงการหลวงแม่สะป๊อก เพื่อเข้าชมความสวยงามของน้ำตกแม่สะป๊อก
น้ำตกใหญ่ที่ไหลลงจากหน้าผาสูง 50 เมตร ก่อนเดินทางกลับสู่ที่พัก

ที่พัก คืนนี้พักกันที่อุทยานแห่งชาติแม่วาง

วันที่สี่ ( 21 กันยายน 2557 )
เช้าวันใหม่ พาเดินไปชมแกรนด์แคนย่อนเชียงใหม่ แห่งอ.หางดงกันก่อนกลับ จากนั้นเดินทางกลับสู่
กทม.

**ช่วงนี้ถ้าน้ำในแม่น้ำวางเริ่มใส และไม่แรง เราจะล่องแพไม้ไผ่ธรรมชาติกันที่แม่วางด้วยครับ
ค่าใช้จ่ายท่านละประมาณ 100 บาทครับ

ทริปนี้ค่าใช้จ่าย 3,600 บาทครับ ราคานี้รวมค่ารถตู้ ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก 2 คืน และค่าอาหาร 9 มื้อ
แล้วนะครับ

------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปแม่โถ-แม่วาง-แม่สะป๊อก

1.Naitredtrei
2.พี่เพ็ญ
3.พี่ตอง
4.พี่เอื้อย
5.พี่กฤษณ์
6.พี่อารีวรรณ
7.พี่อี้
8.พี่สุ
9.พี่เนตร
10.พี่หนุ่ย
11.พี่ซิม

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 12:01:55] 171.98.81.97

Comment : 16


แดนสวรรค์...แชงกรีล่า 18-26 ตุลาคม 2557 ( 9 วัน 8 คืน )

จากหนังสือ The Lost Horizon ของ James Hilton
ที่ได้บันทึกและพรรณนาถึงความงามของดินแดนแห่งนี้ไว้ว่างดงามราวกับสรวงสวรรค์ และที่นี่...แชงกรีล่า
ดินแดนในฝัน สวรรค์ของนักเดินทาง

วันแรก ( 18 ตุลาคม 2557 ) : กรุงเทพ - คุนหมิง - ต้าหลี่

06.00 น. สมาชิกพร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง
08.10 น. ออกเดินทางสู่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน FD2582
(ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง )
11.40 น. ถึงท่าอากาศยานคุนหมิง ตามเวลาท้องถิ่น ( เวลาที่จีนเร็วกว่าบ้านเราประมาณ 1 ชั่วโมง )
จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พัก

วันที่สอง ( 19 ตุลาคม 2557 ) : ต้าหลี่
เช้าวันใหม่ หลังรับประทานอาหารเช้าแล้ว เดินทางสู่เมืองเก่าสีโจว จากนั้นเดินทางสู่ ทะเลสาบเอ๋อไห่ 1
ใน 7 ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของจีน มีความลึกตั้ง 20-30 เมตรทะเลสาบเอ๋อไห่ ถูกขนาบด้วยภูเขา
ชังซาน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่อยู่คู่กับทะเลสาบเอ๋อไห่มาแต่อดีต
จากนั้นเดินทางไปชมความอลังการของวัดฉงเซิ่ง วัดที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองต้าหลี่
มีความโดดเด่นด้วยเจดีย์ขนาดใหญ่ 3 องค์ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีวิหารสวยๆ อีกหลายหลัง
เที่ยวจุใจแล้วเดินทางกลับสู่เมืองเก่าต้าหลี่ ช่วงบ่ายนี้ให้เวลาอิสระ เดินเที่ยวชมเมืองเก่าต้าหลี่
หรือจะขึ้นไปชมเมืองเก่าบนกำแพงเมืองเก่าต้าหลี่ได้ตามอัธยาศัย ยามเย็นเดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก

ที่พัก : ต้าหลี่

วันที่สาม ( 20 ตุลาคม 2557 ) : ต้าหลี่ - ลี่เจียง
เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้า มุ่งหน้าเดินทางสู่เมืองลี่เจียง ( ใช้เวลาเดินทาง 4 ชม. ) ถึงลี่เจียงแล้ว
เดินทางเข้าสู่ที่พัก หลังเก็บสัมภาระแล้ว พาเดินทางสู่เมืองเก่าซูเหอ
เมืองเก่าอีกแห่งหนึ่งของลี่เจียง

บ่ายแก่ๆ กลับไปเดินเล่นในเมืองเก่าลี่เจียง เดินเที่ยวจัตุรัสซื่อฟาง ยามเย็นกลับเข้าสู่ที่พัก
หรือจะเดินเที่ยวชมเมืองเก่ายามค่ำคืนก็ได้ครับ ตามอัธยาศัย

ที่พัก : ลี่เจียง

วันที่สี่ ( 21 ตุลาคม 2557 ) : ลี่เจียง - โค้งแรกจินซาเจียง - หุบเขาเสือกระโจน - แชงกรีล่า
เช้าวันใหม่ เตรียมตัวเดินทางไกลสู่แชงกรีล่า ระหว่างทางแวะเที่ยวชมจุดแรกกันที่ โค้งแรกจินซาเจียง
จุดที่แม่น้ำแยงซีไหลผ่านที่ราบสูงธิเบตสู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้มาถึงจงเตี้ยนหักมุมไหลขึ้นไปทางตอนเหนืออ


ย่างเชี่ยวกราดจนเป็นรูปตัว V บริเวณนี้นอกจากจะชมความอัศจรรย์ของลำน้ำแล้ว
ยังมีวัดทิเบตและศาลเจ้าจีนให้แวะกราบไหว้ขอพร ก่อนจะเดินทางต่อสู่หู่เทียวเสีย หรือหุบเขาเสือกระโจน
ช่องแคบหุบเขาที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งเป็นบริเวณที่ราบสูงต่อจากธิเบต
เมื่อสายแม่น้ำแยงซีเกียงไหลผ่านมาถึงด้านหลังของเทือกเขาหิมะมังกรหยก และเทือกเขาหิมะฮาบา
ซึ่งทั้งสองสูงกว่า 5,000 เมตร ใช้เวลาหลายล้านปีกัดเซาะจนเกิดเป็น
หุบเหวที่ลึกที่สุดในโลกบางช่วงลึกถึง 3,900 เมตร บางช่วงแคบเพียง 30 เมตร
จะได้ยินสายน้ำกระแทกหินดังคึกโครม เมืองจงเตี้ยน หรือที่รู้จักกันดีในนามของ แชงกรีล่า หลังเข้าที่พัก
ให้เวลาอิสระในการเดินเที่ยวชมเมืองเก่าจงเตี้ยน และพักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก : จงเตี้ยน

วันที่ห้า ( 22 ตุลาคม 2557 ) : จงเตี้ยน - โค้งเสี้ยวพระจันทร์ - ธารน้ำแข็งหมิงหย่ง
เช้าวันใหม่ วันนี้เดินทางกันต่อสู่ โค้งเสี้ยวพระจันทร์ จุดโค้งของแม่น้ำแยงซีเกียงที่ไหลโค้งเป็นมุม
360 องศา ตีวงล้อมภูเขา จนมีลักษณะคล้ายพระจันทร์เสี้ยว
จากนั้นเดินทางกันต่อสู่จุดชมวิวภูเขาหิมะไป๋หมาง ในเต๋อชิง ชมความสวยงามของขุนเขายิ่งใหญ่
ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะกันอย่างเต็มที่ ก่อนเดินทางต่อสู่ธารน้ำแข็งหมิงหย่ง โดยระหว่างทางในช่วงนี้
จะมีทิวทัศน์ที่สวยงามให้ได้ชมตลอดสองข้างทาง กระทั่งถึงหมู่บ้านหมิงหย่ง กันราวๆ เที่ยง
หลังรับประทานอาหารกลางวัน เดินเที่ยวชมธารน้ำแข็งหมิงหย่ง กันให้จุใจ ก่อนที่บ่ายแก่ๆ
จะออกเดินทางต่อสู่ที่พักในค่ำคืนนี้ ซึ่งจะเป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ของเขาเหม่ยลี่หรือเขาโอรสสวรรค์
( สูง 6,740 เมตร ) ได้อย่างชัดเจนที่สุด

ที่พัก : เต๋อชิง

วันที่หก ( 23 ตุลาคม 2557 ) : วัดเฟยไหล - นาปาไห่ - จงเตี้ยน
เช้าวันใหม่ หลังทานอาหารเช้า เดินทางสู่วัดเฟยไหล วัดสำคัญที่ชาวทิเบต
นิยมเดินทางมาเพื่อสักการะภูเขาหิมะอันศักดิ์สิทธิ์เบื้องหน้า นั่นก็คือ เทือกเขาเหม่ยลี่
หลังจากสักการะและชมความงามของภูเขาหิมะเหม่ยลี่แล้ว กลับสู่ที่พัก
เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางกลับสู่เมืองจงเตี้ยน ระหว่างทางแวะเที่ยวชมทะเลสาบนาปาไห่
ทะเลสาบที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล มีทั้งทุ่งหญ้า น้ำ และหิมะ ตามแต่ฤดูกาล บนระดับความสูง 3,266 เมตร
ซึ่งอยู่ระหว่างเส้นทางและแวดล้อมด้วยเขา 3 ด้าน มีลำธารไหลมารวม 2 สาย
จากนั้นเข้าสู่ที่พักในเมืองจงเตี้ยน ให้เวลาอิสระเที่ยวชมเมืองกันอีกวัน พักผ่อนกันตามอัธยาศัย

ที่พัก : จงเตี้ยน

วันที่เจ็ด ( 24 ตุลาคม 2557 ) : จงเตี้ยน - วัดซงจ้านหลิน - ลี่เจียง
เช้าวันใหม่ หลังรับประทานอาหารเช้า เดินทางสู่วัดซงจ้านหลิน วัดลามะที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี
สร้างขึ้นโดยดะไลลามะองค์ที่ 5ในปี พ.ศ. 2222 ใช้เวลาก่อสร้าง 18 ปี
จึงสร้างเสร็จในสมัยจักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิงมีรูปแบบคล้ายพระราชวังโปตาลา แห่งกรุงลาซา ทิเบต
แต่ย่อส่วนลง เที่ยวชมวัดกันให้เต็มที่ ช่วงบ่ายเดินทางกลับสู่เมืองลี่เจียง

ที่พัก : ลี่เจียง

วันที่แปด ( 25 ตุลาคม 2557 ) : จงเตี้ยน - คุนหมิง
เช้าวันใหม่ หลังรับประทานอาหารเช้า เดินทางสู่เขาหิมะมังกรหยก นั่งกระเช้าลอยฟ้าแบบกอนโดล่า (
กระเช้าปิดกันลม ความจุ 6 ที่นั่ง ) ขึ้นจุดชมวิวสูงสุด
สัมผัสความหนาวเย็นของหิมะสีขาวและวิวสวยของภูเขาหิมะ ( ใช้เวลาในกระเช้าประมาณ 20 นาที )
ผ่านชมวิวชมป่าสนดึกดำบรรพ์และวิวธรรมชาติที่สวยงามเหนือคำบรรยาย ถึงยอดเขาที่ความสูงกว่า 4,500 เมตร
ภูเขาหิมะมังกรหยก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติของจีน
และมีธรรมชาติที่เลื่องลื่อว่าเป็นสุดยอดความงามแห่งชายแดนตะวันตกเฉียงใต้ ของจีน มีเทือกเขาทั้งหมด 13
ลูก โดยยอดเขาที่สุดสูงถึง 5,596 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล จึงมีหิมะปกคลุมตลอดปี
ในขณะที่ทุ่งหญ้าจะเต็มไปด้วยทิวสนเป็นแนวเขียวขจี จากนั้นลงจากยอดเขาหิมะมังกรหยกเพื่อชมโชว์
Impression of Lijiang โดยผู้กำกับชื่อก้องโลก จาง อวี้ โหมว ได้เนรมิตให้ภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลัง
และบริเวณทุ่งหญ้าเป็นเวทีการแสดง โดยใช้นักแสดงกว่า 600 ชีวิต แสง สี เสียง การแต่งกายตระการตา
เล่าเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ และชาวเผ่าต่างๆ ของเมืองลี่เจียง

(**คำแนะนำ...ข้างบนภูเขาหิมะมังกรหยก หิมะและอากาศหนาวเย็นทำให้มีความกดอากาศต่ำ ปริมาณออกซิเจนน้อย
ท่านที่ขึ้นเที่ยวจะต้องเป็นผู้ที่ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรคความดัน
โรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือท่านที่ประสงค์อยากเที่ยวตามรายการนี้
ก่อนเดินทางควรออกกำลังกายและพักผ่อนอย่างเต็มที่)

จากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองคุนหมิง

ที่พัก : คุนหมิง

วันที่เก้า ( 26 ตุลาคม 2557 ) : คุนหมิง - กทม.
เช้าวันใหม่ หลังรับประทานอาหารเช้าแล้ว เช็คเอ้าท์ แล้วเดินทางสู่วัดหยวนทง
วัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมืองคุนหมิง สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังมีอายุยาวนานประมาณ 1,200
กว่าปี
แต่วัดหยวนทงที่เราเห็นอยู่นี้เป็นลักษณะของวัดในสมัยราชวงศ์ชิง
เนื่องจากวัดนี้ได้ถูกทำลายในสมัยราชวงศ์หมิง และได้รับการบูรณะในเวลาต่อมา
นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังมีความพิเศษกว่าวัดอื่นๆ ในจีน
เพราะปกติแล้วการสร้างวัดของจีนส่วนมากจะต้องสร้างอยู่บนภูเขา แต่วัดหยวนทงสร้างวัดต่ำกว่าภูเขา
โดยวิหารจะอยู่ต่ำที่สุด เนื่องจากวัดแห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดโดยตรง
แต่เคยเป็นศาลเจ้าแม่กวนอิมมาก่อน
ชมวัดกันแล้วออกเดินทางสู่สนามบิน
11.00 น. ถึงท่าอากาศยานเมืองคุนหมิง
13.20 น. เดินทางกลับสู่ กทม. โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน FD2583
14.50 น. ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ

33,500 บาท นี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ กรุงเทพฯ - คุนหมิง - กรุงเทพฯ
- ค่าวีซ่าเข้าประเทศจีน
- ค่าพาหนะตลอดทริป 9 วัน
- ค่าที่พัก 8 คืน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 2,000,000 บาท

** ค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่รวมค่าอาหารตลอดการเดินทางนะครับ


-----------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปแชงกรีล่า

1.Naitredtrei
2.พี่นัท
3.พี่บุ๊ง
4.พี่น้อย
5.พี่ตี๋
6.พี่ปัท
7.พี่ต๋อย

รับได้อีก 8 ที่ครับ
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 12:03:10] mail not show 171.98.81.97

Comment : 17


เที่ยวสบายใจ...อุทัยธานี 1-2 พฤศจิกายน 2557 ( 2 วัน 1 คืน )

วันแรก ( 1 พฤศจิกายน 2557 )

07.00 น. พร้อมกันที่ จุดนัดหมาย ปั๊ม ปตท.วิภาวดี
07.30 น. ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศหลังคาสูง Toyota Commuter D4D มุ่งหน้าสู่ จ.อุทัยธานี
09.30 น. ถึง จ.อุทัยธานี เดินทางสู่ วัดสังกัสรัตนคีรี บนยอดเขาสะแกกรัง นมัสการรอยพระพุทธบาท
และพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ชมวิวทัวทัศน์เมืองอุทัยธานีจากยอดเขา
จากนั้นเข้านมัสการสังขารของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ชมความสวยงามของโบสถ์แก้ว
และปราสาททองกาญจนาภิเษก ช่วงบ่ายมุ่งหน้าเดินทางสู่ อ.ลานสัก
ตื่นตากับป่าดึกดำบรรพ์ที่หุบป่าตาด ผืนป่าที่อยู่อีกด้านหนึ่งของปากถ้ำ 1
ในความมหัศจรรย์ของเมืองอุทัยธานี จากนั้นพาเดินทางกลับสู่ ตัวเมืองอุทัยธานี
เดินทางเข้าสู่ที่พักเรือนแพริมน้ำสะแกกรัง จากนั้นพาไปเก็บบรรยากาศสวยๆ ของเรือนแพ
และวิถีชีวิตริมลำน้ำสะแกกรังยามเย็น ยามค่ำไปเดินเที่ยวบนถนนคนเดินตรอกโรงยา
พักที่ River Marina Resort ( เรือนแพริมน้ำ )

วันที่สอง ( 2 พฤศจิกายน 2557 )
เช้าวันใหม่ตื่นกันแต่เช้า หลังชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าแล้ว พาไปเดินตลาดเช้าริมน้ำสะแกกรัง
ก่อนพาไปเดินเล่นชมเมืองอุทัยธานี ชมห้องแถวไม้ และร้านค้าเก่าแก่ของเมืองอุทัยฯ อาทิ เซ็กเกี้ยกั้ง
สภากาแฟ ฮกแซตึ๊ง ฯลฯ แวะซื้อของฝากของที่ระลึกกันที่ร้านลืออุทัย
จากนั้นพาไปชมการการทำธูปหลากสีบนเกาะเทโพ ช่วงสายอำลาเมืองอุทัยธานีมุ่งหน้าสู่ จ.นครสวรรค์
ช่วงบ่าย พาชมวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ เป็นวัดในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชมความงดงามของเจดีย์แบบพุทธคยา ที่ได้รับสมญานามว่า
พุทธคยาเมืองไทย
จากนั้นพาไปสักการะ พระจุฬามหาเจดีย์อันงดงาม แห่งวัดคีรีวงศ์ และส่งท้ายยามเย็น
กับตะวันลับขอบฟ้าที่ บึงบอระเพ็ด จากนั้นมุ่งหน้าเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

ทริปนี้ค่าใช้จ่าย 2,400 บาทครับ ราคานี้รวมค่ารถตู้ ค่าน้ำมัน ค่าเรือชมบึงบอระเพ็ด ค่าที่พัก
และค่าอาหาร 6 มื้อแล้วนะครับ
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 12:03:59] mail not show 171.98.81.97

Comment : 18


พิชิตดอยหลวงตาก 8-9 พฤศจิกายน 2557 ( 2 วัน 1 คืน )

วันแรก ( 7 พฤศจิกายน 2557 )

21.30 น. พร้อมกันที่ จุดนัดหมาย ปั๊ม ปตท.สนามเป้า
22.00 น. ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศหลังคาสูง Toyota Commuter D4D มุ่งหน้าสู่ หมู่บ้านทุ่งกระเชาะ
อ.บ้านตาก จ.ตาก

วันที่สอง ( 8 พฤศจิกายน 2557 )

ถึงอ.บ้านตาก กันแต่เช้ามืด นอนพักผ่อนเอาแรงกันก่อน หลังรับประทานอาหารเช้า ขึ้นรถมุ่งหน้าสู่
จุดเริ่มต้นเดินเท้าขึ้นยอดดอย 9 โมง เริ่มเดินเท้าขึ้นสู่ยอดดอย วันนี้เราจะเดินกันประมาณ 5 กม.
เส้นทางในช่วงแรกไม่ชันมากครับ แต่จะค่อยๆ ชันขึ้นเรื่อยๆ จนช่วงท้ายๆ จะชันเกือบตลอดเส้นทาง
คาดว่าน่าจะใช้เวลาเดินเท้ากันประมาณ 5-6 ชม. ประมาณ 4 โมงเย็น น่าจะถึงลานกางเต้นท์ และยอดดอย
ที่ระดับความสูง 1,175 เมตรจากระดับน้ำทะเล หลังกางเต้นท์เรียบร้อยแล้ว ก็พักผ่อนตามอัธยาศัย
ยามเย็นชมตะวันลับขอบฟ้า

วันที่สอง ( 9 พฤศจิกายน 2557 )
เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้า ขึ้นมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ถ่ายรูปกับขุนเขาสวยๆ หลังทานอาหารเช้า สายๆ
ค่อยเดินลงจากยอดเขา ถึงตีนเขาประมาณบ่าย 1- บ่าย 2 จากนั้นนั่งรถกลับไปที่ทำการ หลังอาบน้ำ
ล้างเนื้อล้างตัวแล้ว มุ่งหน้าเดินทางกลับสู่ กทม.

ทริปนี้ค่าใช้จ่าย 2,700 บาทครับ ราคานี้รวมค่ารถตู้ ค่าน้ำมัน ค่ารถท้องถิ่นรับส่ง ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง
ค่าลูกหาบ ส่วนกลาง 4 คน ค่าอาหาร 6 มื้อ และค่าประกันการเดินทางแล้วนะครับ

**ข้างบนเป็นแหล่งน้ำซับมีน้ำให้ใช้ครับ แต่ไม่มีห้องน้ำนะครับ
**เส้นทางนี้มีทากนะครับ ยังไงติดถุงกันทากกันไปด้วยนะครับ ( ช่วงที่ไปอากาศเริ่มแห้งแล้ว
อาจมีไม่เยอะมากครับ )

สิ่งที่ควรเตรียมมาด้วย : เต้นท์ ถุงนอน ไฟฉาย เสื้อกันฝน เสื้อกันหนาว ถุงเท้าสวมนอน ถุงกันทาก
รองเท้าสำหรับเดินป่า ยาและของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ( แบกของส่วนตัว + ถุงนอนเอง
ท่านใดต้องการลูกหาบเพิ่มแจ้งได้ล่วงหน้านะครับ )


------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปพิชิตดอยหลวงตาก

1.Naitredtrei
2.พี่นัท
3.พี่ตอง
4.กบ
5.พี่ซี
6.พี่นอต
7.พี่อ้อ
9.น้องโบว์
8.ออย
10.พี่ซัน

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 12:06:52] 171.98.81.97

Comment : 19


ฉ่งชิ่ง อู่หลง ต้าจู๋ มรดกโลก แห่งแผ่นดินจีน 13-16 พฤศจิกายน 2557 ( 4 วัน 3 คืน )

วันแรก ( 13 พฤศจิกายน 2557 ) : กรุงเทพ - ฉ่งชิ่ง - เมืองโบราณ

04.30 น. สมาชิกพร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออก
06.20 น. ออกเดินทางสู่เมืองฉ่งชิ่ง ประเทศจีน โดยสายการบิน Airasia เที่ยวบิน FD556 (ใช้เวลาบินประมาณ
3 ชั่วโมง )
10.20 น. ถึงท่าอากาศยานเมืองฉ่งชิ่ง ประเทศจีน ตามเวลาท้องถิ่น ( เวลาที่จีนเร็วกว่าบ้านเราประมาณ 1
ชั่วโมง )
11.00 น. เดินทางเข้าสู่ที่พัก
หลังเข้าที่พัก พานั่งรถไฟฟ้าเดินทางสู่เมืองโบราณฉือซื่อโข่ว ( Ciqikou ) เมืองโบราณริมน้ำเจียหลิง
ชมอาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิม ในสมัยราชวงศ์ซ่ง หมิง ชิง ให้เวลาเดินเที่ยวกันตามอัธยาศัย

วันที่สอง ( 14 พฤศจิกายน 2557 ) : ฉ่งชิ่ง - อู่หลง
เช้าวันใหม่ ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ แวะรับประทานอาหารเช้าระหว่างทาง
จากนั้นออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองอู่หลง เมืองที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา ห่างจากฉ่งชิ่งประมาณ 130 กม. (
ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม. ) เข้าชมความสวยงามของอุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ มรดกโลกทางธรรมชาติระดับ 5A
ได้รับการรับรองจากยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ในปี ค.ศ.2007 เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก
กลายเป็นหลุมธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ลึกประมาณ 300-500 เมตร
และมีบางส่วนเป็นโพลงทะลุเหมือนกับสะพานทอดข้ามระหว่างภูเขา พาโดยสารลิฟท์แก้ว
ลงไปสู่หุบเหวเบื้องล่างที่ระดับความลึกประมาณ 80 เมตร เมื่อลงไปถึงแล้ว
จะพบกับเส้นทางเดินเท้าเที่ยวชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของกลุ่มสะพานสวรรค์ (
กลุ่มสะพานหินธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ) ประกอบด้วย 3 สะพาน ได้แก่ สะพานมังกรสวรรค์
สะพานมังกรเขียว และสะพานมังกรดำ นอกจากนี้บริเวณหุบเหวด้านล่างยังเป็นที่ตั้งของ โรงเตี๊ยมโบราณ
ซึ่งเป็นจุดแวะพักของคนเดินทางในสมัยก่อนระหว่างเดินทางจากมณฑลเสฉวนไปมณฑลเหอหนาน
ตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งจุดนี้เองที่จางอี้โหมว ใช้เป็นฉากในหนังการถ่ายทำหนังเรื่อง "Curse
of The Golden Flower ศึกโค่นบันลังก์วังทอง"

ช่วงบ่ายพาเดินทางสู่รอยแยกแห่งปฐพี และน้ำตกหุบผาสวรรค์ ชมสายน้ำของที่โปรยปรายลงมาแบบสายฝนขอลน้ำตก
จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พักในเมืองอู่หลง

วันที่สาม ( 15 พฤศจิกายน 2557 ) : อู่หลง - ฉ่งชิ่ง
เช้าวันใหม่หลังรับประทานอาหารเช้า เดินทางสู่ถ้ำฝูหยงต้ง
ถ้ำที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นถ้ำที่สวยที่สุดในแผ่นดินจีน และหนังสือ Chinese National Geography
ยกย่องให้เป็น "NO.1 cave in the world" ค้นพบเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ.1993
เพลิดเพลินกับการเดินชมความงามของหินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆ ตามแต่จินตนาการของแต่ละคน
ซึ่งมีการจัดแสงสีภายในถ้ำช่วยเพิ่มความงดงามยิ่งนัก ใช้เวลาเดินเที่ยวประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้นช่วงบ่ายเดินทางกลับสู่เมืองฉงชิ่ง พาไปเดินถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเป่ย บริเวณอนุสาวรีย์ปลดแอก
ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะในการทำสงครามกับญี่ปุ่น
ปัจจุบันกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมือง เต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 3,000 ร้าน มีร้านอาหาร
ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ ให้เวลาเดินเที่ยวตามอัธยาศัย

ยามเย็นเดินเที่ยวเล่นย่าน หงหยาต้ง ริมแม่น้ำเจียหลิง ซึ่งประกอบไปด้วยโรงแรม ร้านค้าจำหน่ายสินค้า,
ร้าน อาหารพื้นเมือง, ร้านน้ำชา โรงละคร
ซึ่งล้วนแล้วแต่ก่อสร้างตกแต่งในรูปแบบโบราณให้อารมณ์และบรรยากาศย้อนยุคสำหรับนักท่องเที่ยวที่มา
ชมวิวทิวทัศน์แสงสีเมืองฉงชิ่ง ที่ตกแต่งไฟอย่างสวยงาม จนได้สมญญานามว่า
"ฮ่องกงน้อยแห่งภาคตะวันตก"

วันที่สี่ ( 16 พฤศจิกายน 2557 ) : ฉ่งชิ่ง - ต้าจู๋ - ฉ่งชิ่ง - กรุงเทพฯ
เช้าวันใหม่เดินทางเช็คเอ้าท์กันแต่เช้าตรู่ หลังรับประทานอาหารเช้าแล้ว แล้วเดินทางมุ่งหน้าสู่ ต้าจู๋
หน้าผาพระพุทธรูปหินแกะสลักอายุพันกว่าปี ซึ่งอยู่ห่างจากฉ่งชิ่ง 128 กม.
พระพุทธรูปสลักหินที่นี่มีความสวยงามมากแกะสลักตามความเชื่อในศาสนาพุทธ เต๋า และหลักคำสอนของขงจื๊อ
รวมทั้งเทพเจ้าของจีน มารวมเข้าด้วยกันอย่างผสมผสานและกลมกลืน
13.00 น. เดินทางสู่สนามบิน
16.00 น. ถึงท่าอากาศยานเมืองฉ่งชิ่ง
19.55 น. เหิรฟ้าอีกครั้งมุ่งหน้ากลับสู่ประเทศไทย โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน FD553
22.05 น. ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ

18,000 บาท นี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ กรุงเทพฯ - ฉ่งชิ่ง - กรุงเทพฯ
- ค่าวีซ่าเข้าประเทศจีน
- ค่าพาหนะตลอดทริป 4 วัน
- ค่าที่พัก 3 คืน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 2,000,000 บาท


------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปฉ่งชิ่ง

1.Naitredtrei
2.พี่เอ๋
3.พี่พี
4.พี่ตุ้ม
5.จิ
6.จิ2
7.พี่หมู
8.พี่สาร
9.พี่ดาว
10.พี่ญา
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 12:10:27] 171.98.81.97

Comment : 20


4 มรดกโลก หมู่ถ้ำมรดกโลกแห่งอินเดีย เอเลเฟนทา - อชันตา - แอลโลล่า 5 - 10 ธันวาคม 2557 ( 5 วัน 5
คืน
)

วันแรก ( 4 ธันวาคม 2557 ) : กรุงเทพ - มุมไบ

18.30 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
20.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน Air India เที่ยวบิน AI331
(ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง )
23.05 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองมุมไบ ตามเวลาท้องถิ่น ( เวลาที่อินเดียช้ากว่าบ้านเราประมาณ 1
ชั่วโมงครึ่ง ) เดินทางเข้าสู่ที่พัก

วันที่สอง ( 5 ธันวาคม 2557 ) : มุมไบ - ถ้ำเอเลฟันทา - ออรังกาบัด
เช้าวันใหม่ หลังรับประทานอาหารเช้า เดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อลงเรือเฟอร์รี่
08.00 น. มุ่งหน้าเดินทางสู่ เกาะเอเลฟันทา ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง )
09.00 น. ถึงเกาะเอเลฟันทาแล้ว ให้เวลาชื่นชมความงามของถ้ำเอเลฟันทา 1 ในมรดกโลกในปี 1987
12.00 น. เดินทางขึ้นเรือเพื่อกลับสู่ฝั่ง
13.00 น. เดินทางสู่สนามบินภายในประเทศ เพื่อมุ่งหน้าเดินทางสู่เมืองออรังกาบัด ( รับประทานอาหาร
กลางวันที่สนามบิน )
15.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองออรังกาบัด ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน Air India เที่ยวบิน AI-442
(ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง )
15.50 น. ถึงท่าอากาศยานเมืองออรังกาบัด
16.30 น. เดินทางเข้าสู่ที่พัก

วันที่สาม ( 6 ธันวาคม 2557 ) : ออรังกาบัด - หมู่ถ้ำอชันตา
06.00 น. ตื่นแต่เช้า อาบน้ำและรับประทานอาหารเช้า
07.00 น. หลังรับประทานอาหารเช้าแล้ว มุ่งหน้าเดินทางสู่ หมู่ถ้ำอชันตา ( ระยะทาง 100 กม.
ใช้เวลาประมาณ
2 ชม.ครึ่ง )
09.30 น. ถึงหมู่ถ้ำอชันตา อีก 1 ในมรดกโลก ปี 1983 ที่ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอันดับแรกๆ
ของอินเดีย ให้เวลาเพลิดเพลินกับการชื่นชมหมู่ถ้ำอชันตาตลอดทั้งวัน
16.00 น. เดินทางกลับสู่เมืองออรังกาบัด และเข้าสู่ที่พัก

วันที่สี่ ( 7 ธันวาคม 2557 ) : ออรังกาบัด - หมู่ถ้ำเอลโลรา - มหาวิหารไกรลาส
06.30 น. เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้า อาบน้ำและรับประทานอาหารเช้า
08.00 น. หลังรับประทานอาหารเช้าแล้ว มุ่งหน้าเดินทางสู่ หมู่ถ้ำเอลโลรา ( ระยะทาง 30 กม.
ใช้เวลาประมาณ
1 ชม. )
09.30 น. ถึงหมู่ถ้ำเอลโลรา อีก 1 ในมรดกโลก ปี 1983 ชื่นชมความงามของหมู่ถ้ำเอลโลรา
และเข้าชมมหาวิหารไกรลาส ( ถ้ำหมายเลข 16 )
ช่วงบ่าย เดินทางกันต่อสู่ ถ้ำ Pitalkhora Caves (ระยะทางประมาณ 70 ก.ม. ) คาดว่าสร้างในปี พ.ศ.300
อยู่ในหุบเขา เป็นถ้ำพุทธทั้งหมดมี 14 ถ้ำ เป็นยุคหีนยาน หรือ เถรวาท
17.00 น. เดินทางกลับสู่เมืองออรังกาบัด และเข้าสู่ที่พัก

วันที่ห้า ( 8 ธันวาคม 2557 ) : ออรังกาบัด
06.30 น. เช้าวันใหม่ อาบน้ำและรับประทานอาหารเช้า
08.00 น. วันนี้พาเที่ยวชมเมืองออรังกาบัดตลอดทั้งวัน เริ่มต้นที่ กังหันวิดน้ำโบราณ Panchakki,
สุสานมเหสีเอก ของจักรพรรดิออรังเซบ BiBi Ka Maqbara หมู่ถ้ำพุทธของถ้ำออรังกาบัด
ช่วงบ่าย เดินทางไปชมป้อมปราการ Daulatabad Fort และไปต่อที่ สุสานจักรพรรดิออรังเซบ Khuldabad
18.00 น. เดินทางสู่สนามบินออรังกาบัด เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่เมืองมุมไบ
19.50 น. มุ่งหน้ากลับสู่เมืองมุมไบ โดยสายการบิน Jet Airways Konnect เที่ยวบิน 9W-3512
21.15 น. ถึงท่าอากาศยานเมืองมุมไบ และเดินทางเข้าสู่ที่พัก

วันที่หก ( 9 ธันวาคม 2557 ) : มุมไบ
วันนี้เที่ยวชมรอบๆ เมืองมุมไบ เริ่มต้นที่ สถานีรถไฟฉัตรปาตี ชิวาจี อีก 1
ในมรดกโลกที่มีความงดงามของอินเดีย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เมื่อปี 2004 จากนั้นเดินทางสู่ย่าน Apollo
Bunder ชม Gateway of India
ช่วงบ่ายเดินทางสู่ Sanjay Gandhi National Park ( ระยะทาง 42 ก.ม.จากมุมไบ ) เพื่อเข้าชมหมู่ถ้ำพุทธ
Kanheri Caves 109 ถ้ำ
21.00 น. เดินทางสู่สนามบินเมืองมุมไบ

วันที่เจ็ด ( 10 ธันวาคม 2557 ) : มุมไบ - กทม.
01.35 น. เหิรฟ้าอีกครั้งมุ่งหน้ากลับสู่ประเทศไทย โดยสายการบิน Air India เที่ยวบิน AI330
07.20 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

เนื่องจากทริปนี้บางท่านอาจไม่ทานอาหารอินเดีย และประสงค์จะเตรียมไปเองในบางมื้อ
ผมจึงขออนุญาตไม่รวมค่าอาหารกลางวันและเย็นนะครับ
แล้วรถจะพาไปเลือกและแนะนำอาหารให้เราโหวตกันอีกทีนะครับ

31,500 บาท นี้รวมอะไรบ้าง
- ค่าเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ - มุมไบ - กรุงเทพฯ
- ค่าเครื่องบินไป-กลับ มุมไบ - ออรังกาบัด - มุมไบ
- ค่าเรือเฟอร์รี่ไป-กลับ สู่หมู่เกาะเอเลฟันทา
- ค่าวีซ่าอินเดีย
- ค่าอาหารเช้า 5 มื้อ
- ค่าพาหนะตลอดทริป 5 วัน
- ค่าที่พักตลอดทริป 5 คืน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 2,000,000 บาท

31,500 บาท ไม่รวม
- ค่าอาหารกลางวันและเย็น 10 มื้อ
- ค่านำกล้องเข้าไปถ่ายรูปในบางสถานที่ โดยเฉลี่ยที่ละประมาณ 250-300 บาท


------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปอชันตา

1.Naitredtrei
2.พี่โหน่ง
3.พี่หนึ่ง
4.พี่วุฒิ
5.พี่วุฒิ2
6.พี่ตอง
7.แม่ศรีวรรณ
8.พี่จิ๋ว
9.พี่เปิ้ล
10.นุ้ย
11.พี่ตุ่ย
12.อิ๋ง
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 12:12:00] mail not show 171.98.81.97

Comment : 21


น่านในฝัน น่าน 13-15 ธันวาคม 2557 ( 3 วัน 2 คืน )

วันแรก ( 12 ธันวาคม 2557 )

21.30 น. พร้อมกัน ณ ปั๊มปตท.สนามเป้า
22.00 น. ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.น่าน

วันที่สอง ( 13 ธันวาคม 2557 )

เช้ามืดวันใหม่ ที่ จ.น่าน พาขึ้นสู่เขาน้อย เพื่อไปรอชมแสงยามเช้า และวิวสวยๆ ของเมืองน่านกันก่อน
กราบสักการะพระธาตุเขาน้อย จากนั้นลงจากเขารับประทานอาหารเช้า เช้านี้พาไปกินของอร่อยยามเช้า
ที่ถนนสุมนเทวราช กับอาหารหลากหลายที่เลือกทานได้ตามใจชอบ
อิ่มท้องกันแล้วพาไปพระในตัวเมืองน่านกันก่อนที่วัดภูมินทร์ 1 ในแหล่งท่องเที่ยว Unseen ของเมืองน่าน
นมัสการพระประธานจตุรทิศ สักการะพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำปีเกิดของคนเกิดปีเถาะ
ถ่ายรูปสวยๆ กับอุโมงค์ต้นลีลาวดี ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองน่าน
มื้อกลางวันพาไปกินอาหารเหนือริมลำน้ำน่านที่ร้านริมน่าน จากนั้นพาไปนั่งชิลล์ชิมกาแฟ และไอศครีมอร่อยๆ
กับบรรยากาศเก๋ๆ กลางเมืองน่านที่ร้านใจ๋เมือง
จากนั้นพาเดินทางสู่ อ.ปัว เข้าสู่ที่พักบรรยากาศดีๆ ที่โรงแรมป่าปัวภูคา โรงแรมน่ารักที่มีคอนเซ็ปว่า
“แหล่งเปื้อนธรรมชาติ อากาศที่กินได้” กับบรรยากาศดีๆ ของหมู่บ้านในเมืองปัว
ยามเย็นพาไปเดินเที่ยวถนนคนเดินแห่งเมืองปัว

วันที่สาม ( 14 ธันวาคม 2557 )
เช้าวันนี้ตื่นมาแต่เช้า สัมผัสอากาศเย็นๆ ยามเช้า รับประทานอาหารเช้า
เดินเที่ยวชมกาดเช้ากันอีกซักหน่อย ช่วงสายเดินทางขึ้นเขาสู่ อ.บ่อเกลือ
ระหว่างทางแวะชมบ่อเกลือสินเธาว์ ซึ่งชาวบ้านบ้านบ่อหลวงนำขึ้นมาต้มกันเนิ่นนานหลายร้อยปีมาแล้ว
จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พักที่อุ่นไอมาง พักผ่อน ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย
จากนั้นยามเย็นพาไปชมพระอาทิตย์ตก กันที่ลานดูดาว อช.ดอยภูคา จากนั้นกลับไปรับประทานอาหารเย็นที่ที่พัก
และพักผ่อนนอนหลับฝันดีกันในกระโจมแห่งอุ่นไอมาง

วันที่สี่ ( 15 ธันวาคม 2557 )
เช้าวันใหม่ ตื่นกันแต่เช้ามืด พาขึ้นไปชมทะเลหมอก ณ จุดชมทะเลหมอก ดอยภูคา จากนั้นกลับที่พัก
มาสัมผัสสายหมอกยามเช้ากันต่อ รับประทานอาหารเช้า เก็บข้าวของสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ
ขากลับแวะเที่ยว วัดหนองบัว วัดโบราณของชาวไทยลื้อ ชมวิหารของช่างพื้นเมืองล้านนา
และภาพจิตรกกรมฝาผนังที่เก่าแก่ จากนั้นเดินทางกลับสู่ตัวเมืองน่าน
แวะทานมื้อกลางวันกับร้านก๋วยเตี๋ยวหมูลุงซิน ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูแท้ๆ ไม่มีแป้งปน
กับเคล็ดลับความอร่อย ที่ใช้เนื้อหมูแท้ๆ ไปหมักกับสับปะรดก่อนที่จะมาทำลูกชิ้น
อิ่มท้องแล้วก็มุ่งหน้าเดินทางกลับสู่ กทม.

ทริปนี้ค่าใช้จ่าย 4,000 บาทครับ ราคานี้รวมค่ารถตู้ ค่าน้ำมัน ค่าเข้าอุทยานฯ ค่าที่พัก 2 คืน
และค่าอาหาร 9 มื้อ แล้วนะครับ

สิ่งที่ควรเตรียมมาด้วย : เสื้อกันหนาว

------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปน่านในฝัน

1.Naitredtrei
2.พี่นัท
3.น้องเล็ก
4.พี่นิ้ง
5.พี่ปุ๊ก
6.พี่เอ
7.พี่ฝน
8.พี่วรรณ
9.แพร
10.พี่คริส
11.พี่กฤษณ์

เต็มแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 12:14:59] 171.98.81.97

Comment : 22


ดอยมด เชียงราย 20-21 ธันวาคม 2557 ( 2 วัน 1 คืน )

วันแรก ( 19 ธันวาคม 2557 )

21.00 น. พร้อมกันที่ จุดนัดหมาย ปั๊ม ปตท.
21.30 น. ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศหลังคาสูง Toyota Commuter D4D มุ่งหน้าสู่ อ.ดอยสะเก็ด
จ.เชียงใหม่

วันที่สอง ( 20 ธันวาคม 2557 )

รุ่งเช้าเดินทางถึง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลังรับประทานอาหารเช้าแล้ว มุ่งหน้าเดินทางสู่
อุทยานแห่งชาติขุนแจ จ.เชียงราย จัดการเตรียมเรื่องข้าวของและสัมภาระ
จากนั้นขึ้นรถท้องถิ่นไปยังจุดเริ่มต้นเดินเท้าของเราในทริปนี้ วันนี้เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ตามเส้นทาง
ระยะทางประมาณ 5 กม. ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชม. ช่วงปลายทางจะได้เดินบน สันคมดาบ
หรือคนที่นี่เรียกว่า “กิ่วฝักดาบ” พ้นจากสันคมมีดแล้ว จึงเริ่มปีนขึ้นสู่ลานกาง เต้นท์ บนดอยมด
พักค้างวางสัมภาระกันที่นี่ จัดการเรื่องเต็นท์ จากนั้นจึงเดินขึ้นสู่ยอดดอยมด
ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 1,700 เมตร ยามเย็นถ้าอากาศดีๆ เราจะได้ชมตะวันตกดินสวยๆ กันครับ

วันที่สาม ( 21 ธันวาคม 2557 )
เช้าวันใหม่กับบรรยากาศสวยๆ ยามเช้าบนยอดดอย หลังอาหารเช้า จัดแจงเก็บสัมภาระเตรียมตัวเดินทางลง
ใช้เวลาลงประมาณ 3-4 ชั่วโมง ถึงด้านล่างแล้วมีรถท้องถิ่นรอรับกลับไปที่ทำการอุทยานฯ
จากนั้นอาบน้ำกันให้เรียบร้อย ก่อนเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

ทริปนี้ค่าใช้จ่าย 3,400 บาทครับ ราคานี้รวมค่ารถตู้ ค่าน้ำมัน ค่ารถท้องถิ่นรับส่ง
ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง
และลูกหาบ 4 คน ค่าอาหาร 6 มื้อ และประกันการเดินทางแล้วนะครับ

สิ่งที่ควรเตรียมมาด้วย : เต็นท์ ถุงนอน เสื้อกันหนาว ถุงมือ หมวกกันหนาว ถุงเท้าสวมนอน ไฟฉาย
รองเท้าแตะรองเท้าสำหรับเดินป่า ยาและของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ( แบกของส่วนตัว + ถุงนอนเอง
ท่านใดต้องการลูกหาบเพิ่มแจ้งได้ล่วงหน้านะครับ )


------------------------------------------------

สรุปรายชื่อทริปพิชิตดอยมด

1.Naitredtrei
2.พี่นัท
3.พี่เอ๋
4.พี่ตอง
5.กบ
6.พี่ซี
7.ตูน
8.พี่ซัน
9.พี่ซัน2

รับได้อีก 1 ที่ครับ
Post by : Naitredtrei [2014-06-17 12:18:43] 171.98.81.97

Comment : 23


ทริปพุกาม - อินเล - กะลอว์ - พินดายา - ตองยี - คักคู พม่า 8 วัน 7 คืน
( 27 ธ.ค. 2557 -4 ม.ค. 2558 )

วันแรก กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง ( เสาร์ที่ 27 ธ.ค. 2557 )

16.30 น. สมาชิกพร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง
18.45 น. ออกเดินทางสู่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน FD257
(ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง )
19.35 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง ตามเวลาท้องถิ่น (
เวลาที่พม่าช้ากว่าบ้านเราประมาณครึ่งชั่วโมง ) จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พักเมืองย่างกุ้ง

ที่พัก : ย่างกุ้ง

วันที่ 2 ย่างกุ้ง - พุกาม (อาทิตย์ที่ 28 ธ.ค. 2557 )
04.30 น. เดินทางสู่สนามบินเมืองย่างกุ้ง
06.50 น. ออกเดินทางสู่เมืองพุกาม โดยสายการบิน AIR BAGAN เที่ยวบิน W9009
(ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง - 2 ชม. )
08.10 น. ถึงท่าอากาศยานเมืองพุกาม

เดินทางเข้าสู่เมืองพุกาม ดินแดนแห่งเจดีย์สามหมื่นองค์ เป็นเมืองซึ่งมีอายุกว่า 2,000 ปี
ของพระเจ้าอโณร ธามหาราช แห่งอาณาจักรพุกาม นำสัมภาระเข้าสู่ที่พัก

จากนั้นเข้าชมเจดีย์ชเวสิกอง ซึ่งเป็นสถูปพม่าแท้ปิดทององค์ขนาดใหญ่
สร้างโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ
แต่แล้วเสร็จในรัชกาลพระเจ้าจันสิทธา แห่งอาณาจักรพุกาม ราว 960 ปีก่อน
ภายในประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า โดยอัญเชิญมาจากลังกา บนหลังช้างเผือก
พระเจ้าอโนรธามังช่อได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าช้างเผือกคุกเข่าลงที่ใด จะสร้างเจดีย์ไว้ที่นั่น
เป็นพระเจดีย์ที่สำคัญเป็นอันดับ 2 ของพม่า รองจากพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง โดยชื่อ ชเวสิกอง
มีหมายความว่า เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ เป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานที่คนพม่าต้องไปนมัสการ
และสัมผัสความอัศจรรย์ทั้ง 9 ของมหาเจดีย์แห่งนี้

จากนั้นชมวิหารกุพโยคยี ชื่อวิหารแห่งนี้แปลว่า ถ้ำใหญ่ สร้างโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิทธา
ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังงดงามน่าชม ที่ยังคงเหลืออยู่

เข้าชม วิหารอนันดา
วิหารแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นศาสนสถานขนาดใหญ่ที่งดงามมากที่สุดในพุกาม
และได้รับยกย่องว่าเป็น เพชรน้ำเอกของพุทธศิลป์สกุลช่างพุกาม
ซึ่งต่อมาวิหารนี้เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมพม่าและสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารนี้ คือ
ช่างได้เจาะแสงสว่างเข้ามาในวิหารเฉพาะให้ตรงกับองค์พระประธาน ทำให้องค์พระประธานมองดูโดดเด่น งดงามมาก
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าจันสิทธา ( ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ.1672-1655 ) กษัตริย์องค์ที่ 3
แห่งราชวงศ์พุกาม พระองค์เคยเป็นทหารคู่พระทัยของพระเจ้าอโนรธามหาราช
อีกทั้งได้รับการยกย่องว่าเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่อีกพระองค์หนึ่ง

ช่วงบ่ายเข้าชมเจดีย์มหาโพธิ์ เจดีย์องค์นี้สร้างในสมัยพระเจ้านันดวงมยา
โดยได้จำลองแบบมาจากพุทธคยา ที่อินเดีย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปเรียงรายแบบเดียวกับศิลปะอินเดีย
วิหารแห่งนี้เคยถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2518 แต่ปัจจุบันได้รับการบูรณะแล้ว

เข้าชมเจดีย์ชเวกูจี เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยพระเจ้าอลองสิตถุ
โดยใช้เวลาในการก่อสร้างเพียง
7 เดือน ซึ่งในปลายรัชสมัย ขณะที่พระเจ้าอลองสิตถุประชวร
ได้ถูกพระราชโอรสองค์รองนำตัวมาไว้ที่เจดีย์วิหารชเวกูจีแห่งนี้ แล้วปลงพระชนม์ ณ วิหารแห่งนี้
วิหารแห่งนี้เป็นจุดชมทะเลเจดีย์ที่สวยงามจุดหนึ่งในพุกาม

จากนั้นเข้าชมวิหารปโตตาเมียะ ชื่อวิหารแห่งนี้ แปลว่า วิหารที่งอกงาม หมายถึง
วิหารที่เป็นจุดศูนย์กลางให้พุทธศาสนา งอกงาม เผยแพร่ออกไปกว้างไกล
กล่าวกันว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 17 ในสมัยพระเจ้าสอระหัน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้า
บ้างก็ว่าเป็นวัดที่สร้างโดยพระเจ้าสอลู เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 17 เช่นกัน
ที่สำคัญภายในวิหารยังมีภาพจิตรกรรมที่ยังใช้สีโทนเดียวทำจากธรรมชาติ มีสีเหลือง น้ำตาล เทา
และดำเป็นหลัก ภาพจิตรกรรมมีหลายเรื่องราว เช่น ภาพพุทธประวัติ ภาพพระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา นอกจากนี้
ยังมีภาพอดีตพุทธเจ้ากับพระสาวก และชาดกเรื่องต่างๆ 550 ชาติ

ต่อด้วยการเข้าชม วิหารสัพพัญญู วิหารที่สูงที่สุดในพุกาม
เป็นวิหารประจำรัชสมัยพระเจ้าอลองสิตถุ
และเป็น 1 ใน 4 ศาสนสถานของเมืองพุกาม สร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
รอบฐานกว้างขวางเลียนแบบวัดที่อินเดีย ในปี พ.ศ.2518 อาคารวิหารได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เนื่องจากแผ่นดินไหว แต่ก็ได้รับการบูรณะจนเสร็จภายใน 3 ปี จัดเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพุกาม
แต่ด้วยความทรุดโทรม จึงไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปชั้นบน นับแต่ปี 2537 เป็นต้นมา

ชม วิหารธรรมยางจี วิหารที่ใหญ่ที่สุดในพุกาม วิหารแห่งนี้ สร้างในสมัยพระเจ้านรสุ ช่วงปี
พ.ศ.1710-1713 กล่าวกันว่า พระองค์ทรงสร้างวัดนี้ขึ้น เพื่อเป็นการไถ่บาป
จากการที่พระองค์เป็นผู้ปลงพระชนม์พระบิดา และพระเชษฐาของตนเอง ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่า
เป็นวิหารแข็งแกร่งที่สุด ละม้ายคล้ายคลึงไปทางนครวัดของขอม ถือได้ว่าเป็น 1 ใน 4
ศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ของเมืองพุกาม

ยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกที่เจดีย์ชเวซานดอร์ ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลเจดีย์
ภายในองค์เจดีย์ที่เป็นที่ประดิษฐานของพระเกศธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระเจ้าอโนรธา
ทรงนำมาหลังจากที่พระองค์ทรงมีชัยเหนือเมืองสะเทิม เมื่อ 900 ปีก่อน เจดีย์แห่งนี้
ตั้งอยู่กลางทะเลเจดีย์ ที่สามารถมองเห็นดงทะเลเจดีย์ได้อย่างชัดเจน
และเป็นจุดชมดวงตะวันลาลับขอบฟ้าสวยที่สุด ท่ามกลางทะเลเจดีย์

ที่พัก : พุกาม

วันที่สาม พุกาม ( จันทร์ที่ 29 ธ.ค. 2558 )
เช้ามืดไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันที่มิงกาลาเจดีย์ เจดีย์องค์นี้ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำอิรวดี
สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1770 โดยพระเจ้านรสีหบดี โดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมที่เหมาะเจาะลงตัวสวยงาม
เป็นเจดีย์อิฐตัน อยู่เหนือฐาน 3 ชั้นซ้อนกัน มีชิ้นส่วนดินเผาเล่าเรื่องราวชาดก
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นก่อนที่พุกามจะถูกพวกมองโกลเข้ามารุกรานทำลายได้ไม่นาน
จึงเป็นสถานที่ซึ่งแสดงให้เห็นถึงฝีมือการสร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรมในยุคท้ายๆ ของพุกาม
ใช้เวลาในการสร้างนาน 6 ปี ที่นี่เป็นจุดชมทะเลเจดีย์ยามเช้าที่งดงามที่สุดจุดหนึ่ง

หลังรับประทานอาหารเช้า เดินทางสู่วิหารชเวเลตู วิหารขนาดเล็กที่สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 19
ภายในวิหารมีพระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังบางส่วนหลงเหลือให้ได้ชม
ด้านบนมีบันไดขึ้นไปจุดชมวิวที่มองเห็นแม่น้ำอิระวดีได้ชัดเจน

จากนั้นเดินทางไล่ลงใต้สู่เจดีย์วิหารกอว์ดอว์ปาลิน สร้างในสมัยพระเจ้านรปติสิตถุ
ราวคริสต์ศตวรรษที่ 11 และมาแล้วเสร็จในสมัยพระเจ้านันดวงมยา ผู้เป็นพระราชโอรส

จากนั้นเข้าชมวิหารมินยินกอง
วิหารแห่งนี้ในอดีตเคยเปิดให้ขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม
แต่ปัจจุบันไม่อนุญาตให้ขึ้นชมเนื่องจากความปลอดภัย ภายในวิหารมีพระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ทำให้คาดว่าวิหารแห่งนี้น่าจะสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 17-18

เข้าชมวิหารอะเพยทนะ วิหารที่ได้รับอิทธิพลจากมอญ มีระเบียงมืดทึบ
กำหนดให้แสงอาทิตย์ส่องเฉพาะตำแหน่ง จนพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในงามลอยเด่นออกมาจากความมืด
เป็นหนึ่งในสุดยอดผลงานของช่างแห่งพุกามที่น่าชม

จากนั้นชมเจดีย์วิหารเสียนเยท อมา และเจดีย์เสียนเยท ยิมา เจดีย์ 2
องค์นี้สร้างโดยพระราชธิดาเสียนเยท อมา ผู้พี่ และพระราชธิดาเสียนเยท ยิมา ผู้น้อง
สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 12 เจดีย์ทั้ง 2 องค์มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ และมีความงดงามมาก

ช่วงบ่ายลงสู่เมืองพุกามใหม่ เข้าชมวัดโลกะนันทะ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโนรธาเช่นกัน
ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งอระวดี ซึ่งชาวบ้านที่มานอกจากมาทำบุญและสักการะพระเจดีย์แล้ว
บางคนยังมานั่งเล่นหย่อนใจชมสายน้ำ เรื่อยเลยไปจนถึงนั่งชมอาทิตย์ตกดินด้วย หากพอมีเวลา
ด้านนอกมีตั้งตั้งขายอาหารประเภทของกินเล่น เช่น กุ้งแม่น้ำตัวโตชุบแป้งทอด และไอศกรีมถังตักใส่ถ้วย

จากนั้นเดินทางสู่วัดโลกะเตคปาน ชื่อของวัดนี้มีหมายความว่า ตกแต่งไว้งามที่สุดในสามโลก
จากหลักฐานตัวหนังสือที่เขียนกำกับชาดกทำให้สันนิษฐานได้ว่าวิหารแห่งนี้
น่าจะสร้างในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 17 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าอลองสินธุ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง
ที่อยู่ในยุคที่มีการปรับเปลี่ยนจากเดิมที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดียอย่างชัดเจนมาเป็นแบบท้องถิ่น
หรือศิลปะพุกามยุคแรกมากขึ้น

จากนั้นย้อนกลับขึ้นมาเข้าชมวิหารมนูหะ หรือวัดอึดอัด วัดแห่งนี้สร้างโดยพระเจ้ามนูหะ
กษัตริย์แห่งมอญ เมื่อครั้งคราวที่พระองค์ถูกพระเจ้าอโนรธาจับมาเป็นเชลย ซึ่งไม่เพียงกษัตริย์
และมเหสีเท่านั้น ชาวมอญเรือนหมื่น ก็ถูกกวาดต้อนมาด้วย พระองค์ทรงมีความคับแค้นใจ จึงนำอัญมณีออกขาย
นำเงินมาสร้างวัดมนูหะ จากนั้นก็สร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย และพระพุทธรูปปางไสยาสน์
ให้มีขนาดใหญ่โตอึดอัดคับโบสถ์ เพื่อต้องการถ่ายทอดความรู้สึกอึดอัดใจ

จากนั้นเข้าชมวิหารนันพญา หรือเจดีย์หินนันพญา ตามตำนานกล่าวว่า หลังจากที่พระเจ้าอโนรธา
ทรงตีเมืองสะเทิมแตก ก็จับพระเจ้ามนูหะใส่ตรวนทองคำ มาคุมขังไว้ที่วิหารนันพญาแห่งนี้
วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 แตกต่างจากวิหารอื่นๆ ตรงที่สร้างด้วยหิน ลักษณะไปทางขอม
แต่โครงสร้างโดยรวมยังเป็นศิลปะแบบพุกาม วัดแห่งนี้เป็นพุทธสถาน ที่มีกลิ่นอายของฮินดูปนอยู่
ภายในมีภาพสลักนูนต่ำที่งดงาม โดยเฉพาะรูปพระพรหมถือดอกบัวบาน

จากนั้นเดินทางสู่วิหารสุลามณี หรือจุฬามณี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1724 โดยพระเจ้านรปติสิตถุ
ออกแบบโดยผสมผสานระหว่างพุกามยุคแรก และยุคกลาง ด้วยรูปแบบคูหาซ้อนกัน 2 ชั้น
ตกแต่งงานปูนปั้นอย่างงดงาม เป็นอีกหนึ่งผลงานที่วิจิตรในพุกาม

ยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกที่ เจดีย์บูเลดี 1 ในจุดชมทะเลเจดีย์ยามดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ที่งดงามอีกจุดหนึ่ง

ที่พัก : พุกาม

วันที่สี่ พุกาม - เฮโฮ - ตองยี ( อังคารที่ 30 ธ.ค. 2558 )
ตื่นแต่เช้ามืดไปดูทะเลเจดีย์ยามรุ่งอรุณกันอีกแห่ง จากนั้น
06.20 น. เดินทางกลับที่พัก
07.10 น. เดินทางสู่สนามบินเมือง
08.25 น. ออกเดินทางสู่เมืองเฮโฮ โดยสายการบิน AIR BAGAN เที่ยวบิน W9141
( ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง )
09.40 น. ถึงท่าอากาศยานเมืองเฮโฮ ประตูสู่รัฐฉาน จากนั้นเดินทางสู่เมืองตองยี เข้าสู่ที่พัก
ช่วงบ่ายพาไปนมัสการ เจดีย์สุระมุนี หรือเจดีย์สมจิตอธิฐาน
ซึ่งสร้างเลียนแบบมาจากวิหารอนันดาแห่งเมืองพุกาม สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่เมืองตองยีมีอายุครบ 100 ปี
ใช้เวลาสร้างประมาณ 8 ปี ภายในเจดีย์นี้จะมีพระยืนขนาดใหญ่ 4 องค์ประดิษฐานอยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศ
พระพักตร์ทำด้วยทองคำและบรอนช์ ซึ่งจากบริเวณเจดีย์สุระมุนี หากมีเวลาพาเข้าชมชมพิพิธภัณฑ์ชาวฉาน
ซึ่งรวบรวมไว้ซึ่ง ประวัติศาสตร์ความเป็นมาในอดีตของชาวรัฐฉาน
ซึ่งมีการปกครองโดยระบอบเจ้าฟ้าในหัวเมืองต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วย ชาวฉาน ชาวปะโอ ชาวปะหล่อง ชาวดะนุ
ชาวอินตา ชาวไตเผ่าต่างๆ ฯลฯ ก่อนที่จะตกเป็นของพม่าในที่สุด ยามเย็นเข้านมัสการเจดีย์สุระมุนีอีกครั้ง
เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางวิวสวยๆ ของเมืองตองยี และนมัสการองค์เจดีย์ในยามค่ำคืน
จากนั้นเดินทางกลับสู่ที่พัก

ที่พัก : ตองยี

วันที่ห้า ตองยี - คัคคู - นองชเว ( พุธที่ 31 ธ.ค. 2558 )
เช้าวันใหม่ หลังรับประทานอาหารเช้า ออกเดินทางสู่ เมืองคัคคู ชมหมู่เจดีย์ปริศนากว่า 2,000
องค์
ที่สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 16 ในดินแดนของชนเผ่าปะโอ ชมวิถีชีวิตชนเผ่าปะโอ
หลังชมความสวยงามของคัคคูแล้ว
เดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองนองชเว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.ครึ่ง ระหว่างทางแวะชม วัดชเวยันเป 1
ในมุมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ กับการถ่ายรูปคู่กับบานหน้าต่างกลมยักษ์ภายในวัด
ชื่อวัดแห่งนี้มีความหมายว่า สมปรารถนา มีอายุเก่าแก่กว่า 115 ปีมาแล้ว
จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองนองชเว
เข้าสู่ที่พัก

ที่พัก : นองชเว

วันที่หก นองชเว - อินเล ( พฤหัสที่ 1 ม.ค. 2558 )
เช้าวันใหม่ หลังเดินเล่นในเมืองนองชเวยามเช้า และรับประทานอาหารเช้ากันแล้ว
ออกลงเรือมุ่งหน้าสู่ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของพม่า
ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ
158 ตารางกิโลเมตร ประชาชนส่วนใหญ่ คือ ชาวอินตา หรือแปลว่า ลูกทะเลสาบ ซึ่งมีมากกว่า 70,000 คน
ชมแปลงผักลอยน้ำ ซึ่งชาวอินตาส่วนใหญ่จะทำสวนลอยน้ำ ชมวิถีชีวิตของชาวประมง
ที่พายเรือด้วยเท้าข้างเดียวทั้งชายและหญิงอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวอินตา และถ้าโชคดี อาจเจอตลาดนัด 5
วัน
(ตลาดเหยาม่า) ซึ่งเป็นตลาดนัดที่หมุนเวียนกันไปโดยไม่ซ้ำกัน จากนั้นแวะเดินเที่ยวชมเจดีย์โบราณที่
ชเวอินเดน สถูปเจดีย์เก่าแก่หลายร้อยองค์ที่ยังคงหลงเหลือให้ได้ชมอยู่ในหมู่บ้าน
ช่วงบ่ายพาชม วัดพองดออู สร้างในศตวรรษที่ 12 อดีต นมัสการพระบัวเข็ม
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่แกะจากไม้จันทน์ อายุนับพันปี 5 องค์ เดิมมีขนาดเพียง 5
ซ.ม.แต่ด้วยศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนได้มาปิดทองจนมีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 6 เท่า
หลังจากนั้นเดินทางสู่ วัด Nga Phe Kyang หรือวัดแมวกระโดด วัดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.
1205 สมัยพระเจ้ามินดง อายุกว่า 200 ปี ภายในประกอบด้วยเสาไม้สักถึง 654 ต้น
ที่นี่เป็นที่รวบรวมพระพุทธรูปเก่าแก่สำคัญๆ ไว้มากมาย จากนั้นเดินทางกลับสู่ที่พัก
พักผ่อนกับบรรยากาศของทะเลสาบอินเล

ที่พัก : อินเล

วันที่เจ็ด อินเล - นองชเว - กะลอว์ ( ศุกร์ที่ 2 ม.ค. 2558 )
เช้าวันใหม่ ตื่นกันแต่เช้าขึ้นมาชมทะเลสาบอินเลยามเช้า หลังรับประทานอาหารเช้ากันแล้ว
ช่วงสายลงเรือกลับสู่เมืองนองชเว จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองกะลอว์ ระหว่างทางแวะชม วัดชเวยันเป
ยามเช้ากันอีกซักรอบ จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองกะลอว์
เมืองกะลอว์ ตั้งอยู่บนที่ราบสูงบนขุนเขาสูงของเทือกเขาชานโยมา
ทางใต้ของรัฐฉานห่างจากเมืองตองยีไปประมาณ 70 ก.ม. สูงจากระดับน้ำทะเล 1,320 เมตร
เป็นที่ตั้งของฐานทัพอังกฤษในสมัยอาณานิคม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม.
กะลอว์ได้ชื่อว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์แห่งเมียนมาร์ เพราะตั้งอยู่บนเขาสูง อากาศหนาวเย็นตลอดปี
อุณหภูมิเฉลี่ย 20-25 องศา แต่ในช่วงเดือน พ.ย. - ก.พ. อุณหภูมิจะประมาณ 5-10 องศา ถึงเมืองกะลอว์แล้ว
เดินทางเข้าสู่ที่พัก จากนั้นพาเที่ยวรอบๆ เมืองกะลอว์ เข้าชมเจดีย์และพระพุทธรูปนับพันองค์ที่ Shwe
U Min
จากนั้นนำนมัสการพระนีพญา พระพุทธรูปที่สานจากไม้ไผ่ อายุราว 500 ปี
ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาจากชาวกะลอว์ ประดิษฐานอยู่ที่ วัดพินมากอง หลังจากนั้นยามเย็นพาขึ้นยอดเขา
ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

ที่พัก : กะลอว์

วันที่แปด กะลอว์ - พินดายา - กะลอว์ ( เสาร์ที่ 3 ม.ค. 2558 )
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า รับประทานอาหารเช้า พร้อมสัมผัสความสดชื่นของอากาศยามเช้าแห่งเมืองกะลอว์
วันนี้พาเดินทางสู่ ถ้ำพินดายา ระหว่างทางชมทิวทัศน์อันงดงาม และชนเผ่าต่างๆ ของรัฐฉาน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวปะโอ ซึ่งมีเอกลักษณ์ในการแต่งตัวด้วยผ้าสีดำ และโพกศีรษะด้วยผ้าสีสันสดใส
เพราะเชื่อกันว่าชาวปะโอมีต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์มาจากพญานาคผู้สง่างาม

ถึงถ้ำพินดายา ถ้ำที่มีองค์พระพุทธรูปจำนวนมากถึง 8,000
องค์หลากยุคหลากสมัยถูกเก็บรักษาเอาไว้ที่นี่
เกิดจากการที่มีความเชื่อที่ว่าหากผู้ใดได้สร้างพระหรือเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชา
ผู้นั้นก็จะได้บุญกุศลไปในภายภาคหน้า บ่ายแก่ๆ เดินทางกลับสู่เมืองกะลอว์

ที่พัก : กะลอว์

วันที่เก้า กะลอว์ - เฮโฮ - ย่างกุ้ง - กรุงเทพฯ ( อาทิตย์ที่ 4 ม.ค. 2558 )
เช้าวันใหม่ หลังรับประทานอาหารเช้า เดินเล่นอีกนิดหน่อย ก่อนเตรียมตัวมุ่งหน้าเดินทางสู่สนามบิน
07.00 น. เดินทางสู่สนามบินเมืองเฮโฮ
08.30 น. ถึงสนามบินเมืองเฮโฮ
09.55 น. เดินทางกลับสู่เมืองย่างกุ้ง โดยสายการบิน AIR BAGAN เที่ยวบิน W9011
11.05 น. ถึงสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง รอขึ้นเครื่องเดินทางกลับ
หรือเช่ารถเที่ยวในเมืองย่างกุ้งกันต่อระหว่างรอขึ้นเครื่องกลับ
18.00 น. เช็คอินเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ
20.05 น. เดินทางกลับสู่ กทม. โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน FD258
21.55 น. ถึงสนามบินดอนเมือง

ทริปนี้ค่าใช้จ่ายคนละ …….. บาทครับ ราคานี้รวม
- ค่าเครื่องบินไป - กลับ กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง – กรุงเทพฯ
- ค่าเครื่องบินภายในประเทศ 3 ไฟล์ท ย่างกุ้ง - พุกาม / พุกาม - เฮโฮ / เฮโฮ - ย่างกุ้ง
- ค่าเข้าชมวัดต่างๆ ในเมืองพุกาม - อินเล - ตองยี - คัคคู - กะลอว์ – พินดายา
- ค่ารถและค่าเดินทางตลอดรายการ
- ค่าล่องเรือในทะเลสาบอินเล
- ค่าที่พัก 8 คืน
- ค่าอาหาร 24 มื้อ
Post by : Naitredtrei [2014-06-25 07:53:13] 171.98.81.97

Page 1

Reply

Picture :
You can not Allow register ClickHere | login

Not readable? Change text. *
Name : *
E-mail :
Tel : ICQ :
Detail :
Very Happy Smile Sad Surprised
Shocked Confused Cool Laughing
Mad Razz Embarassed Crying or Very sad
Evil or Very Mad Twisted Evil Rolling Eyes Wink
Exclamation Question Idea Arrow
*

  *

dentist bangkok | implant bangkok | veneer bangkok | implant thailand | dentist sukhumvit | dental sukhumvit | fast braces bangkok | tooth whitening bangkok |

 
 
     
 
 
eXTReMe Tracker