เที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์...Paradise in Thailand Post by : Naitredtrei : 2008-04-04 18:16:07 Powered by : travel-is.com

เที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์...Paradise in Thailand

สวัสดีครับเพื่อนๆ หายหน้าหายตากันไปนานเลย คิดถึงกันบ้างมั๊ยเนี่ย กลับมาคราวนี้ต้อนรับลมร้อน
กับทริปท่องทะเลสวย สวยจนไม่อยากกลับบ้านไปเลย ทริปนี้สนุกมากๆ เราเดินทางกันไปไกลถึง
หมู่เกาะสุรินทร์ เพื่อเก็บภาพดีๆ มาฝาก
ครั้งนี้ผมเตรียมข้อมูลการเดินทางไปเที่ยวด้วยตัวเองมาให้ด้วยนะครับ แต่จะเก็บไว้ตอนปิดท้ายเลย
สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวที่นี่ หรือยังไม่มีโปรแกรมจะไปที่ไหนช่วงวันหยุดฤดูร้อนนี้
ลองดูภาพประกอบการตัดสินใจกันเลยครับ.

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 18:16:07]

Page 1 [ 2 ]

Comment : 1

มาทำความรู้จักกับสถานที่แห่งนี้กันซักหน่อย

ใครหลายคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมที่นี่ ถึงชื่อ หมู่เกาะสุรินทร์
ไม่ได้ตั้งอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ซักหน่อย ??

ท่านที่เห็นในภาพนั่นแหละครับ พระยาสุรินทราชา เทศาเมืองภูเก็ต (นามเดิมนกยูง วิเศษกุล)
เมื่อครั้งที่ท่านมาสำรวจ ทะเลฝั่งอันดามัน ที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
ท่านเป็นผู้ค้นพบเกาะแห่งนี้ และตั้งชื่อ โดยใช้พระนามของท่าน เรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า
หมู่เกาะสุรินทร์

และเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2524 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์
เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ซึ่งนับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 29 ของประเทศไทย

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 18:25:51]

Comment : 2

ภาพสวยๆ จากบริเวณชายหาดด้านหน้าของ อ่าวช่องขาด ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์ของพวกเราในครั้งนี้

ที่นี่บรรยากาศดีมากๆ ชายหาดสวย น้ำทะเลใสสุดๆ ไม่เชื่อลองดูภาพด้านล่าง

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 18:29:04]

Comment : 3

มุ่งหน้าสู่ หมู่บ้านมอแกน

ถึงแล้ว

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 18:36:17]

Comment : 4

หมู่บ้านมอแกนนี้ ตั้งอยู่ที่ อ่าวบอน
หลังจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิชาวมอแกนจึงอพยพมารวมกันอยู่ที่อ่าวนี้ทั้งหมด

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 18:42:18]

Comment : 5

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาหมู่เกาะสุรินทร์แล้วอยากจะมาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวมอแกน
ต้องนั่งเรือจากที่ทำการอุทยานฯ มาประมาณ 10 นาที ก็จะถึง อ่าวบอน หมู่บ้านมอแกน
และถ้ามากันไม่กี่คน ที่อุทยานฯ เค้าก็จัดเรือไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวทุกวัน วันละ 1 รอบ คือรอบ 9.00
น. และกลับตอน 11.00 น. คิดค่าบริการไป - กลับ ท่านละ 80 บาทเอง ไม่ต้องไปเสียเงินเหมาเรือทั้งลำครับ

ชาวมอแกนที่นี่ใช้นามสกุลเดียวกันหมดทั้งหมู่บ้าน คือ กล้าทะเล ซึ่งเป็นนามสกุลพระราชทานครับ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 18:53:10]

Comment : 6

รวมภาพเด็กๆ ชาวมอแกน

และอีกมุมดีๆ บน อ่าวบอน

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 18:55:56]

Comment : 7

ได้เวลาที่เราจะดำไปชมความงามของท้องทะเลแห่งนี้กันแล้ว ก่อนอื่นก็ต้องบอกกฏ กติกามารยาทกันซะก่อนครับ

จำไว้นะครับนักท่องเที่ยวที่ดีต้องปฏิบัติตามนี้

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:00:41]

Comment : 8

เมื่อพร้อมแล้ว ก็ออกเรือได้เลย

มีคนมาลองเรือเที่ยวด้วย

และจุดแรก ก็ที่นี่เลย อ่าวผักกาด

ความใสของท้องน้ำ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:06:15]

Comment : 9

แล้วก็มาต่อที่ จุดดำน้ำบริเวณ เกาะตอรินลา

น้ำใสมากๆ ที่ เกาะสต็อร์ค

และแหล่งปะการังเขากวาง และความหลากลายของฝูงปลา อย่าง อ่าวจาก

ปล. อ่าวจาก แห่งนี้ เป็นจุดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสึนามิแต่อย่างใด

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:14:37]

Comment : 10

ที่นี่ อ่าวเต่า ที่เป็นจุดหนึ่ง ที่คุณอาจได้มีโอกาสพบกับเจ้าเต่าทะเล อย่างเจ้า เต่ากระ
แต่น่าเสียดายพวกผมไม่ยักเจอเต่าเลย

จุดที่ผมชอบที่อีกจุดหนึ่ง หินแพ

ใครที่อยากเห็นปลาสวยๆ น่าตาแปลกๆ ให้วนเข้าไปใกล้กองหิน ส่วนใหญ่พวกมันจะไปหลบกันอยู่ตามซอกหิน
ที่นี่จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่ดำน้ำเพลินมากๆ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:23:36]

Comment : 11

อีกหนึ่งจุดดำน้ำสวยๆ น้ำใสๆ ที่คุณจะต้องหลงใหลอย่าง อ่าวแม่ยาย

อ่าวนี้เป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุด และเป็นอีกจุดดำน้ำที่ทั้งเขียว และใส จนลืมไม่ลง
ที่นี่เป็นจุดที่ผมดำเพลินจนหลุดออกไปไกลเลยทีเดียว

มากันเป็นคู่ เห็นแล้วอิจฉา 555

ปล. อ่าวแม่ยาย แห่งนี้ก็เป็นอีกจุดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:31:36]

Comment : 12

มุ่งหน้ากลับสู่ ที่ทำการอุทยานฯ

ไปมาก็หลายที่เพิ่งจะรู้ว่าจุดที่สวยที่สุดอยู่ที่นี่ ด้านหน้าของที่ทำการอุทยานฯ นี่เอง น้ำใสมากๆ
ไม่เชื่อลองดูกันเอาเอง

ผืนน้ำกับผืนฟ้า โอย! สวยมากๆ

ดูกันให้เต็มตาอีกครั้งว่าน้ำใสแค่ไหน

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:35:50]

Comment : 13

เอาเป็นว่า เดี๋ยวจะพาเตร็ดเตร่ บริเวณชายหาดหน้าเกาะ กับแถวท่าเรือซักรอบ ให้อิจฉากันเล่น

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:44:37]

Comment : 14

ปลายทาง

อีกหนึ่งช่วงเวลาดีๆ ของชีวิตที่คุณจะได้มาเห็นน้ำทะเลใสๆ ด้วยตาของคุณเอง

ได้มานั่งหย่อนเท้าอย่างสบายใจ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:48:05]

Comment : 15

บริเวณชายหาดด้านหน้าที่ทำการอุทยานฯ

คุณยังมีเวลาเหลือเฟือ พอกับการเดินเล่นริมชายหาด

หรือนั่งฟังเสียงคลื่นกระทบโขดหิน

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:52:53]

Comment : 16

หรือถ้ายังมีแรงเหลือ ผมแนะนำให้คุณเปลี่ยนบรรยากาศเดินเข้าป่า เดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติซักรอบ

แล้วจะรู้ว่าที่นี่ ยังมีอะไรดีๆ อีกเยอะ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 19:55:48]

Comment : 17

แต่ถ้าวันนี้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า หาต้นไม้ดีๆ ผูกเปลนอน ก็ไม่มีใครว่า

แสงแดดยามบ่ายต้องท้องน้ำ ระยิบระยับ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:00:30]

Comment : 18

ได้เวลาชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันแล้ว

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:02:55]

Comment : 19

บรรยากาศดีๆ ที่ทำให้คุณลืมที่นี่ไม่ลง

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:07:36]

Comment : 20

แสงจันทร์และแสงดาว ระยิบระยับ

( เป็นครั้งแรกที่ถ่ายติดดาว ดีใจสุดๆ

)

ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปเดินหาปูไก่ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เลยได้เจ้าเนี่ยมาแทน

ปูเสฉวนตัวน้อย

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:15:28]

Comment : 21

และแล้วก็กลับมาผูกเปลนอนดูแสงจันทร์ และแสงดาว

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:18:22]

Comment : 22

ปิดท้ายก่อนกลับ จะพาเดินเลาะเลียบชายหาด ดูความสวยใสของน้ำทะเลกันอีกซักรอบ
เริ่มเดินตั้งแต่หน้าจุดกางเต็นท์ อ่าวช่องขาด ไปจนถึงอ่าวที่สวยที่สุดอีดอ่าวหนึ่ง
อ่าวกระทิง

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:22:14]

Comment : 23

น้ำสวย

ทะเลก็ใส

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:24:10]

Comment : 24

อีกหลายมุมดีๆ ระหว่างทาง

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:25:55]

Comment : 25

และแล้วก็ถึงจนได้ อ่าวกระทิง

อ่าวแห่งนี้ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยว มากางเต็นท์ ที่นี่จึงยังคงรักษาความเงียบสงบ
และสวยงามเอาไว้มากทีเดียว ใครที่มาที่นี่ช่วงเช้าๆ จะเห็นขบวนปูเสฉวนเพียบเลย เดินดีๆ นะครับ
ระวังจะเหยียบมันเข้า

เงาไม้กว้างใหญ่

ชายหาดเงียบสงบ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:33:00]

Comment : 26

ยังมีมุมดีๆ ให้ดูอีกเพียบ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:36:30]

Comment : 27

บริเวณด้านข้างของอ่าวกระทิง มีฝูงปูขึ้นมาเดินอาบแดดกันเพียบเลย

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:41:13]

Comment : 28

เจ้าเนี่ยไม่รู้ปูอะไร ตาแดงน่ากลัวเชียว

และก็เจ้าตัวเล็กนี่

ดูกันแบบชัดๆ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:43:47]

Comment : 29

มาดูเจ้าปูเสฉวนกันบ้างดีกว่า ที่หมู่เกาะสุรินทร์แห่งนี้ยังคงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเจ้าปูเสฉวน
ที่คุณจะสามารถพบเห็นมันได้อย่างง่ายดาย

และนี่ คือ ลูกของเจ้าปูเสฉวน ตัวเล็กนิดเดียว ถ้าไม่สังเกตุดีๆ ก็อาจเผลอเหยียบมันได้

ดูกันชัดๆ อีกที

ถ้ายังอยากให้เจ้าเสฉวนยังคงอยู่คู่เกาะสุรินทร์ เราคงต้องช่วยกันนะครับ รักษาท้องทะเล ง่ายๆ
แค่ไม่ทิ้งขยะ และช่วยกันรักษาบ้านของเจ้าปูเสฉวนเอาไว้ ไม่เก็บเปลือกหอยกลับมา
แค่นี้ถ้าเราทุกคนช่วยกัน ก็ช่วยรักษาบ้านของมันให้คงอยู่ได้แล้ว

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 20:52:07]

Comment : 30

เห็นภาพสวยๆ แล้วอยากตามพวกผมมาเที่ยวที่นี่มั๊ยครับ มาได้ไม่ยากเลย

และนี่ คือ ข้อมูลดีๆ ที่ผมรวบรวมมาบวกกับอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ เข้าไปอีกหน่อย เช่นพวกราคา
และเบอร์โทรศัพท์

ต้องขอขอบคุณข้อมูลดีๆ เหล่านี้จาก www.greenzonethailand.com ครับ

เอาละไปดูกันเลยดีกว่า

คู่มือเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

รถโดยสารประจำทาง
เริ่มต้นจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ คือ

ลิกไนต์ทัวร์ : รถปรับอากาศชั้น 1-38 ที่นั่ง ราคา 573 บาท รถออกทุกวัน เวลา 19.05 น.
สามารถสอบถามหรือสำรองที่นั่งได้ที่ 02-894-6151-3

ภูเก็ตเซ็นทรัล : รถปรับอากาศชั้น 1-38 ที่นั่ง ราคา 573 บาท รถออกวันเว้นวัน เวลา 18.50 น.
สำรองที่นั่งได้ที่ 02-885-8692-4, 02-894-6171-2

ภูเก็ตท่องเที่ยว : รถปรับอากาศชั้น 1-38 ที่นั่ง ราคา 573 บาท รถออกวันเว้นวัน เวลา 18.45 น.
สำรองที่นั่งได้ที่ 02-885-9025-6, 02-894-6144-5

บริษัท ขนส่ง จำกัด ( บขส. ) : รถปรับอากาศชั้น 1-38 ที่นั่ง ราคา 573 บาท รถออกทุกวัน เวลา 18.45 น.
สำรองที่นั่งได้ที่ 02-422-4443-4

รถจะถึงที่ อ.คุระบุรี ประมาณ 05.00 น. จากท่ารถคุระบุรี
ไปยังที่ทำการอุทยานฯ ( บนฝั่ง ) สามารถนั่งรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างในราคาคนละ 50 บาท
หรือถ้ามีคนเยอะก็สามารถหารถยนต์เช่าเหมาได้ในราคาคันละ 200 บาท
( แต่โดยปกติแล้วทางบริษัทเรือที่เราจองไว้จะมีบริการรับ - ส่งฟรีอยู่แล้ว
โดยเค้าจะมารอรับคุณที่ท่ารถเลยครับ )

ส่วนขากลับนั้น
รถ VIP 32 ที่นั่งของลิกไนท์ทัวร์ ราคา 575 บาท แต่เค้าจะวิ่งวันเว้นวัน ( สลับ วันคู่ - วันคี่ )

รถ ป.1 36-38 ที่นั่งของภูเก็ตเซ็นทรัล และภูเก็ตท่องเที่ยว ราคาจะเท่ากันทุกบริษัท คือ 575 บาท

นอกจากนี้ยังจะมีรถ 99 ของ บ.ข.ส. เป็นรถ ป.1-38 ที่นั่งเหมือนกัน ราคา 575 บาท

โดยรถทุกคันจะมาถึงยังจุดจอดรถคุระบุรี ประมาณ 18.15 น. ถึง 18.30 น.

สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่จุดจอดรถคุระบุรี 076-491218
สถานีขนส่งกรุงเทพ ( สายใต้ ) : 02-3451199, 02-3451200, 02-3455605

หรืออีกวิธีง่ายๆ คือ ให้บริษัทที่คุณจองตั๋วเรือมาช่วยจองตั๋วรถกลับให้ด้วย
ซึ่งปกติจะมีบริการให้อยู่แล้ว และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ทั้งสิ้นครับ

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 21:27:52]

Comment : 31

มาถึงการเดินทางโดยเรือกันบ้าง

การเดินทางโดยเรือสำหรับที่หมู่เกาะสุรินทร์ โดยจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ

1. การเดินทางจากฝั่งคุระบุรี ไปยังหมู่เกาะสุรินทร์
การเดินทางแบบนี้มีเรือให้เลือก 2 แบบ คือ เรือธรรมดา และ เรือเร็ว ( Speed Boat )

- เรือธรรมดา ราคาคนละ 1,200 บาท / ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที
เวลาเรือออกจากฝั่งคุระบุรี 09.00 น. ถึงหมู่เกาะสุรินทร์ 11.30 น.
เวลาเรือออกจากหมู่เกาะสุรินทร์ 13.00 น. ถึงคุระบุรี15.30 น.

- เรือเร็ว ( Speed Boat ) ราคาคนละ 1,600 บาท / ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง

เวลาเรือออกจากฝั่งคุระบุรี 08.30 น. ถึงหมู่เกาะสุรินทร์ 09.30 น.
เวลาเรือออกจากหมู่เกาะสุรินทร์ 14.00 น. ถึงคุระบุรี 15.00 น.

โดยท่านสามารถติดต่อจองเรือได้ที่ได้ที่ บ.ซาบีน่าทัวร์ 076-491867
หรือที่ คุณนฤมล 01-7375801 , 01-7372625
www.tourkohsurin.com

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 21:30:55]

Comment : 32

2. การเดินทางออกไปดำน้ำตามจุดต่างๆ รอบหมู่เกาะสุรินทร์

นักท่องเที่ยวที่ต้องการออกไปชมความงามของโลกใต้ทะเล ของหมู่เกาะสุรินทร์

สามารถจองเรือสำหรับออกไปดำน้ำได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้ทั้งที่ อ่าวช่องขาด และ ที่อ่าวไม้งาม

โดยเสียค่าใช้จ่าย วันละ 160 บาท ต่อคน ( ใน 1 วันจะแบ่งออกเป็นรอบเช้ากับรอบบ่าย
ถ้าต้องการเฉพาะรอบเดียวก็จะเสียคนละ 80 บาท)

นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อจองเรือที่จะออกไปดำน้ำวัน ต่อไป ในระหว่างเวลา 18.00 น. - 20.00 น.

ส่วนค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ ( ชูชีพ, สนอร์คเกิ้ล ) ชุดละ 150 บาท ต่อวัน ( ครึ่งวัน 80 บาท )

ปล. ถ้าจะให้ประหยัดแนะนำให้เช่ามาจากบริษัทที่คุณจองตั๋วเรือจะถูกกว่า เช่น ของซาบีน่า ทัวร์
คิดค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ ( ชูชีพ, สนอร์คเกิ้ล ) ชุดละ 100 บาท ต่อวัน แถมไปกี่วันลดราคาให้อีก 1 วัน
เช่น คุณไปเที่ยว 3 วัน 2 คืน ก็คิด 200 บาทเองครับ

รอบเช้า ชำระเงินเวลา 08.00 - 08.30 น. เรือออกเวลา 09.00 น. กลับเวลา 11.00 น.

รอบบ่าย ชำระเงินเวลา 13.00 - 13.30 น. เรือออกเวลา 14.00 น. กลับเวลา 16.00 น.

ในแต่ละจุดที่เราพักอยู่จะมีตารางการออกไปดำน้ำที่แตกต่างกัน โดยจะมีรายละเอียดดังนี้

สำหรับท่านที่พัก อ่าวไม้งาม
1. เช้า - อ่าวแม่ยาย, หินแพ, อ่าวเต่า
บ่าย - อ่าวจาก, เกาะสต๊อร์ค

2. เช้า - เกาะตอรินลา, อ่าวผักกาด
บ่าย - อ่าวสุเทพ, เกาะมังกร, อ่าวไม้งาม

สำหรับท่านที่พัก อ่าวช่องขาด
1. เช้า - อ่าวจาก, เกาะสต๊อร์ค
บ่าย - อ่าวแม่ยาย, หินแพ, อ่าวเต่า

2. เช้า - อ่าวสุเทพ, เกาะมังกร, อ่าวไม้งาม
บ่าย - เกาะตอรินลา, อ่าวผักกาด

ถ้ามีเวลาประมาณ 3 วัน 2 คืน ก็จะสามารถไปดำน้ำได้ครบทุกจุดได้อย่างลงตัว

และถ้าจะให้ดีเพิ่มเช้าอีก 1 วันสำหรับ เดินทางไปเที่ยวชมหมู่บ้านมอแกนด้วยนะครับ

ซึ่งเรือจะมีแค่วันละรอบ คือ รอบเช้า เรือออกเวลา 09.30 น. กลับเวลา 11.00 น.

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 21:38:50]

Comment : 33

ด้านที่พัก ที่หมู่เกาะสุรินทร์แห่งนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ

1. ที่พักแบบเต้นท์ โดยจะมีให้เลือก 2 แบบคือ
เต็นท์ ขนาด 2 คน คืนละ 300 บาท
เต็นท์ ขนาด 3 คน คืนละ 450 บาท
ส่วนเครื่องนอนที่ประกอบไปด้วย ที่นอน หมอน และผ้าห่ม ราคาชุดละ 60 บาท /คืน
แต่ถ้านำเต็นท์ไปเองจะเสียค่ากางหลังละ 80 บาท /คน/คืน

2. บ้านพัก
ท่านที่ต้องการบ้านพักจะต้องจองโดยตรงกับทางกรมอุทยานแห่งชาติ โทร 02-5612919, 02-5612921 ในราคาหลังละ
2,000 บาท นอนได้ 2 คน ( แต่จะมีเฉพาะที่อ่าวช่องขาดเท่านั้น )

และสำหรับกรณีที่มีผู้เข้าพักแรมในที่พักเกินจำนวนที่กำหนด
ต้องชำระค่าตอบแทนที่พักสำหรับจำนวนที่เกินอีก
โดยไม่มีเครื่องนอนหรือของใช้อื่นๆเพิ่ม ดังนี้ ประเภทบ้านพัก ในอัตราคนละ 100 บาท /คน/คืน
และประเภทค่ายพัก ในอัตราคนละ 50 บาท/คน/คืน

ส่วนถ้าเป็นเต้นท์สามารถจองได้จากทางอุทยานฯ โดยตรง ที่
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
ต.เกาะพระทอง อ. คุระบุรี จ. พังงา 82150
โทรศัพท์ 076-472145-6 โทรสาร 076-472147
เมื่อติดต่อจองเรียบร้อยแล้วให้โอนเงินมาที่หมายเลขบัญชีของทางอุทยานฯ

ในนาม อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ธ.กรุงไทย สาขาคุระบุรี บ.ออมทรัพย์ เลขที่ 825-1149-444
เมื่อโอนเงินเสร็จแล้ว ให้ FAX สลิป พร้อมชื่อผู้จอง และวันที่เข้าพัก มาที่ 076-472147
( นักท่องเที่ยวจะต้องโอนเงินสำหรับค่าที่พักเต็นท์เท่านั้น
ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้มาจ่ายที่เกาะได้เลย )
หมายเหตุ : ค่าธรรมเนียมอุทยาน ( คนไทย ) คนละ 40 บาท / ( ต่างชาติ ) คนละ 200 บาท

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 21:40:00]

Comment : 34

ด้านอาหารการกิน

นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการจากร้านค้าสวัสดิการภายในบริเวณที่พักได้
โดยสามารถเลือกสั่งได้ตามความชอบทั้งอาหารชุดที่ที่จัดเตรียมกันมาแบบเต็มอิ่ม
หรืออาหารตามสั่งในราคาประหยัด

สำหรับอาหารชุดจะมีราคาดังนี้
อาหารเช้า คนละ 80 บาท
กลางวัน คนละ 140 บาท
เย็น คนละ 180 บาท

( รวมทั้ง 3 มื้อจะตกคนละ 400 บาท / ต่อคน / ต่อวัน )

นอกจากนี้ จะมีขนม เครื่องดื่ม และของขบเคี้ยวอื่นๆ ให้บริการด้วย

ท่านที่ต้องการจะซื้อของไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือขนมต่างๆ
สามารถติดต่อขอซื้อคูปองได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
โดยเฉพาะในส่วนของอาหารชุด ทางเจ้าหน้าที่เค้าจะออกใบเสร็จที่ระบุมื้อของอาหารมาให้
( สามารถจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว )
เมื่อถึงเวลาที่ท่านมาทานอาหารก็เพียงแต่แสดงให้เจ้าหน้าที่ดูก็เป็นอันเรียบร้อยครับ

หมายเหตุ : ขนมขบเคี้ยว หรือสิ่งของบางอย่างอาจจะแพงกว่าบนฝั่ง
ขอแนะนำให้ท่านหาซื้อหรือเตรียมมาให้เต็มที่ก่อนออกเดินทางครับ.

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 21:41:54]

Comment : 35

และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

1. อ่าวช่องขาด นอกจากจะเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ แล้ว ยังเป็นจุดพักแรมที่มีทั้งบ้านพัก
และเต้นท์
ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักอีกด้วย

2. อ่าวไม้งาม อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะสุรินทร์เหนือ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 2 กิโลเมตร
ด้านตะวันตกของอ่าวเป็นแนวปะการังในอ่าวใหญ่ ขอบแนวปะการังห่างฝั่ง 200 - 500 เมตร

การเดินทางไปอ่าวแห่งนี้ ทำได้ 2 แบบ คือ เดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติหาดไม้งาม ความยาว 2,000 เมตร
อีกแบบหนึ่ง คือนั่งเรือ แต่เรือไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าอ่าวไม้งาม เนื่องจากน้ำตื้นมาก
จึงต้องไปจอดเรือที่หาดเล็กๆ ก่อนเดินทางเท้าต่อไปอีก 200 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสเดินชมป่า
ก่อนที่จะไปดำน้ำริมหาด บริเวณอ่าวไม้งามเป็นหาดทรายธรรมชาติที่งดงาม มีปูเสฉวนจำนวนมาก
บางช่วงฤดูอาจพบเห็นนกขุนทองทำรังบนต้นไม้ ปะการังที่พบในอ่าวนี้ เป็นปะการังแผ่นตั้ง ปะการังเห็ด
ปะการังเขากวาง และปะการังก้อน พบอยู่ห่างจากฝั่งพอสมควรนอกจากปะการังแล้วยังพบสัตว์ทะเล เช่น
ดอกไม้ทะเล ปลิงทะเล และปลามีให้ชมในช่วงที่อยู่ห่างจากฝั่งพอควร การดำน้ำดูปะการังในบริเวณอ่าวนี้
ควรดำน้ำเฉพาะเส้นทางดำน้ำที่กำหนด มิฉะนั้นแล้วอาจไปเกยตื้นกลางดงปะการัง สิ่งที่ควรทำคือ
พยายามลอยตัวไปตามพื้นทราย ลัดเลาะข้างๆ ปะการัง อย่าลอยอยู่บนปะการังโดยตรง
ซึ่งอาจโดนปะการังหรือเม่นทะเลโดยไม่ได้ตั้งใจ

บริเวณอ่าวไม้งามนี้ ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดทำสถานที่กางเต็นท์ ห้องน้ำ-ห้องสุขา
ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่สนใจมาพักแรมแบบแคมป์ปิ้ง
นักท่องเที่ยวควรปฎิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ช่วยกันประหยัดน้ำจืด
ช่วยเหลือกันและเคารพสิทธิของกันและกันในหมู่นักท่องเที่ยว ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่ การดำน้ำตื้น,
กิจกรรมชายหาด, แค็มป์ปิ้ง, ดูนก, เดินป่าศึกษาธรรมชาติ, พายเรือแคนู/คยัค เป็นต้น

สถานะปัจจุบัน : ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

3. เกาะมังกร เกาะปาจุมบา เกาะแห่งนี้จะมีอ่าวมังกรอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 5 กิโลเมตร แต่จะอยู่ไม่ไกลจากอ่าวไม้งาม และอ่าวสุเทพ
พื้นแห่งนี้เป็นพื้นที่สงวนสำหรับการอนุรักษ์เต่าทะเล บริเวณนี้น้ำไม่ลึกเท่าไหร่
ยกเว้นด้านเหนือของเกาะ มีแต่กองหินใต้น้ำ ไม่มีปะการังอ่อน หรือกัลปังหา แต่จะมีฝูงปลาจำนวนมาก
บางครั้งอาจจะมีกระแสน้ำแรง ควรดำน้ำด้วยความระมัดระวัง

สถานะปัจจุบัน : ได้รับความเสียหายจากคลื่นยักษ์สึนามิเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

4. อ่าวสุเทพ อยู่ที่ทิศตะวันตกของเกาะสุรินทร์ใต้ ไม่ไกลจากบริเวณที่พักของอุทยานแห่งชาติ
(อ่าวช่องขาด) เท่าไหร่นัก เป็นอ่าวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะนี้ มีแนวประการังยาวถึง 1,200 เมตร
ห่างจากฝั่ง 200 - 500 เมตร หรือมากกว่านั้น ด้านในของแนวปะการังเป็นปะการังขนาดเล็ก
ส่วนด้านนอกของแนวเป็นปะการังก้อนขนาดใหญ่สลับกับปะการังแผ่นนอนใหญ่มาก ขอบแนวปะการรังลาดลงสู่พื้นทราย
ความลึก 15 เมตร สามารถพบเห็นปะการังอ่อนและกัลปังหา หอยมือเสือ
และปลาสวยงามหลากหลายชนิดได้อย่างง่ายดาย

สถานะปัจจุบัน : ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิน้อยมาก

5. เกาะไข่ หรือเกาะตอรินลา อยู่ทางทิศใต้ของเกาะสุรินทร์ใต้ ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร
เกาะตอรินลาเป็นจุดดำน้ำชั้นยอดของหมู่เกาะสุรินทร์ บางคนเรียกว่า กองเหลือง
บริเวณนี้มีทั้งแนวปะการังและกองหินใต้น้ำสลับกัน จัดเป็นจุดดำน้ำที่ใหญ่มาก
กินอาณาเขตเกือบทั่วร่องน้ำระหว่างเกาะตอรินลา กับเกาะสุรินทร์ใต้ มีดงปะการังเขากว้างที่กว้างใหญ่
มีปลาสวยงามมากมาย มากกว่า 200 ชนิด เช่น ปลาไหลสวน ฉลามครีบเงิน ฉลามเสือดาว กระเบนหางแส้
กะรังหน้างอน
ฝูงปลาค้างคาว ปลากระตั้ว ปลาไหลริ้บบิ้น เป็นต้น และที่โดนเด่นคือ
มีปลากระโทงแทงกระโดดให้เห็นกันบ่อยๆ
ถือเป็นจุดชมปลากระโทงแทงชั้นเยี่ยมแห่งหนึ่งของทะเลไทย สามารถดำได้ทั้ง ดำน้ำตื้น และดำน้ำลึก
ข้อควรระวังสำหรับนักดำน้ำ คือ บริเวณร่องน้ำเกาะตอรินลา มีกระแสน้ำอันรุนแรง บางครั้งไหลวน
จึงควรดำน้ำด้วยความระมัดระวัง

สถานะปัจจุบัน : ได้รับความเสียหายจากคลื่นยักษ์สึนามิประมาณ 40 %
ของพื้นที่แนวปะการังทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นปะการังเขากวาง

6. อ่าวผักกาด อ่าวผักกาดเป็นอ่าวเล็กๆ อยู่ทางทิศใต้ของเกาะสุรินทร์ใต้ เลยอ่าวเต่าไป
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 5 กิโลเมตร แนวปะการังริมฝั่ง กว้างประมาณ 50 - 150 เมตร
มีชายหาดเล็กๆ แนวปะการังหักชันตรงขอบลงสู่ความลึก 15 -20 เมตร ด้านล่างเป็นพื้นทราย
สามารถพบเห็นปะการังอ่อนและกัลปังหาได้บ้าง อ่าวผักกาดเป็นจุดที่มีปะการังหลากหลายชนิดในพื้นที่แคบๆ
พบทั้งปะการังก้อน แผ่นตั้ง แผ่นนอน เขากวาง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ทะเลที่น่าสนใจ เช่น ดอกไม้ทะเล
หอยมือเสือ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในน้ำลึก อาจทำให้มองเห็นไม่ชัด สำหรับผู้ที่ชอบดำน้ำแบบผิวน้ำ
ที่นี่มีปลาเกือบทุกชนิดที่พบในหมู่เกาะเกาะสุรินทร์ มาดำน้ำที่อ่าวผักกาดจึงต้องสังเกตปลาเป็นหลัก
โดยเฉพาะปลาผีเสื้อ และปลาสินสมุทร เพราะที่นี่มีปลาสองกลุ่มนี้หลากหลายมาก

สถานะปัจจุบัน : ไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด

7. อ่าวเต่า อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 2 กิโลเมตร
เป็นแนวปะการังริมเกาะกว้าง 50 - 200 เมตร แนวปะการังหักชันลงที่ลึก 20 - 25 เมตรอย่างรวดเร็ว
บริเวณด้านในของแนวปะการังจะพบกับปะการังขนาดเล็ก บริเวณตรงกลางของแนวปะการังพบปะการังหลากหลายชนิด
สำหรับบริเวณขอบแนวปะการังพบปะการังก้อนขนาดใหญ่ มีปะการังอ่อนและกัลปังหาอยู่เป็นหย่อมๆ ในที่ลึก
สัตว์เด่นบริเวณนี้ คือ เต่ากระ นอกจากนี้ยังมีสัตว์หลากหลายชนิด แม้แต่กระเบนราหู หรือฉลามวาฬ
ก็เคยมีนักดำน้ำแบบดำผิวน้ำพบเห็นในบริเวณนี้เช่นกัน

สถานะปัจจุบัน : ไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด

8. หินแพ เป็นจุดดำน้ำแห่งแรกๆ ของหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้
ใครที่นั่งเรือมาจากฝั่งจะต้องเห็นกองหินนี้ ก่อนที่จะเข้าสู่จุดจอดเรือที่อ่าวช่องขาดทุกคน รอบๆ
หินแพนั้นระดับน้ำค่อนข้างตื้น มีความลึกตั้งแต่ 1 เมตร ไปจนถึง 20 เมตร
บางจุดพบว่ามีดงปะการังเขากวางขึ้นอยู่หนาแน่น นอกจากนี้ยังพบแส้ทะเล, กัลปังหา, ปลาจิ้มฟันจรเข้,
ปลาสิงโตหนวดยาว และปลากลางน้ำอีกหลายชนิด

สถานะปัจจุบัน : ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

9. อ่าวแม่ยาย เป็นอ่าวใหญ่ที่สุด เคยมีปะการังกิ่งตลอดแนวอ่าว ปัจจุบันทางด้านกลางอ่าวจนถึงก้นอ่าว
ปิดเพื่อฟื้นฟูปะการัง เปิดให้ดำน้ำบริเวณใกล้ปลายแหลมด้านทิศตะวันออก
ซึ่งมีแนวปะการังก้อนให้เราได้ศึกษาชีวิตสัตว์ทะเลตามแนวปะการังแห่งนี้ ในยามที่ไม่สามารถออก
เรือไปดำน้ำไกลๆ ได้

สถานะปัจจุบัน : ไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด

10. อ่าวไทรเอน ในอดีตอ่าวไทรเอนเคยเป็นหมู่บ้านของชาวมอแกน
แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ของหมู่เกาะสุรินทร์ไปแล้ว
โดยชาวเลทั้งหมดได้ไปรวมกันอยู่ที่อ่าวบอน ซึ่งอยู่ที่เกาะสุรินทร์ใต้หมดแล้ว

11. อ่าวจาก อยู่ด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์เหนือ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 10 กม.
เป็นแนวปะการังในอ่าวใหญ่ ขอบปะการังอยู่ห่างจากฝั่ง 200-400 เมตร ด้านในเป็นปะการังเขากวาง
ปะการังพุ่ม
ปะการังกิ่ง ด้านนอกมีปะการังก้อนสลับกับปะการังเขากวางกว้างใหญ่ สัตว์ใต้ทะเลส่วนมากเป็นปลาสวยงาม

สถานะปัจจุบัน : ไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด

12. เกาะราบ หรือ เกาะสต็อร์ค เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสุรินทร์เหนือ
ที่จะต้องนั่งเรือไปไกลพอสมควร บางครั้งถ้ามีคลื่นลมจะไม่ สามารถไปได้ แต่เป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียง

1 ใน 5 ของหมู่เกาะสุรินทร์แห่งนี้ ที่นี่นอกจากจะได้พบกับปะการังสีฟ้าแล้ว
ท่านยังจะได้พบกับกลุ่มของปะการังอ่อน เช่น Nepthea ขึ้นเป็นดงเหมือนกับที่หมู่เกาะสิมิลัน
ด้วยเหตุที่แนวปะการังของที่นี่แตกต่างจากจุดอื่นๆ ดังนั้นสัตว์ทะเลที่นี่จึงแตกต่างจากที่อื่นเช่นกัน
เนื่องจากนักท่องเที่ยวหลายคนเคยพบ กระเบนราหู และฉลามวาฬ ที่นี่

สถานะปัจจุบัน : ได้รับความเสียหายจากคลื่นยักษ์สึนามิน้อยมาก

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 21:44:46]

Comment : 36

ได้ข้อมูลกันไปจนเพียบเลย สำหรับการไปเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์
ยังไงก็อย่าลืมช่วยกันรักษาความสวยงามของท้องทะเลแห่งนี้ไว้ให้ด้วยนะครับ.

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 21:48:01]

Comment : 37

ยังไม่จบครับ ยังมีต่ออีกนิดหน่อย

ต้องขอขอบคุณ

และเพื่อนใหม่จากการเดินทาง

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 21:51:19]

Comment : 38

ถ่ายรูปสวยจัง นายเตร็ดเตร่ น้ำในมาก ๆ น่าไปจัง

ข้อมูลก็ครบ ใครจะไปเที่ยวนี่มาอ่านกระทู้นี้ได้ความรู้เพียบ

350D [2008-04-04 21:53:09] mail not show

Comment : 39

แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าครับ บ๊าย บาย.

Post by : Naitredtrei [2008-04-04 21:53:45]

Comment : 40

งามแต๊ อิอิ

Post by : golfreeze [2008-04-06 22:06:17]

Comment : 41

สวยจังพี่เอ ขนาดอยู่ใกล้บ้านนะเนี่ย ยังไม่เคยไปเลย

Post by : kay-kay [2008-04-07 11:11:55] mail not show

Comment : 42

มาดูรูปแล้วน้องเอ..สวยดีแท้

แหม...ใส่รายละเอียดไว้เยอะเลยน่ะเนี่ย
เก่งจริงๆ..ทำกี่วันเนี้ยะ..^^

Post by : ying [2008-04-07 21:50:22]

Comment : 43

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีและรูปสวยๆครับ

Post by : bank [2008-04-08 13:49:14] mail not show

Comment : 44

สวยจางเยย.... ยย มีโอกาศจะไปบ้างคับ

Post by : oh.aey [2008-06-27 15:37:48] mail not show

Comment : 45

ขอบคุณครับสำหรับภาพสวยๆ
พอดีอยากทราบข้อมูลละเอียดคับผม อย่างเช่น
- ค่าเรือ Speed Boat จากคุระบุรี ไปที่เกาะ ราคา 1,600 บาท นี่รวมทั้งไปทั้งกลับป่ะคับ
- ค่าที่พัก จากข้อมูลข้างบนเป็นราคาต่อคืน หรือว่าเหมาจ่ายครับ

รบกวนด้วยคับผม

Post by : NaTThaWuT [2009-02-19 15:17:14] mail not show

Comment : 46

ค่าเรือ Speed Boat จากคุระบุรี ไปที่เกาะ ราคา 1,600 บาท นี่เป็นราคารวมทั้งไปและกลับครับ

ส่วนเรื่องที่พักนี่ ตอนนี้คงต้องเช็คราคาในเว็บไซต์ของกรมอุทยานฯ อีกครั้งครับ
ว่าปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

Post by : Naitredtrei [2009-02-19 19:30:00]