เดินทาง ท่องเที่ยว ถ่ายรูป ทั่วไทย
 
 
เดินทาง ท่องเที่ยว ถ่ายรูป ทั่วไทยเรื่องเล่าทริปแกลเลอลี่เว็บบอร์ดลิงค์เกี่ยวกับเรา


 
 
 
 
 
ชุ่มฉ่ำสายธาร ดูดอกไม้บานบนลานหิน ที่..ภูหินร่องกล้า





สวัสดีครับ หายหน้าหายตาไปเป็นเดือนเลย ช่วงนี้ยุ่งจริงๆ เลยไม่ค่อยมีเวลามาโพสต์เท่าไหร่
ครั้งนี้เอารูปจากทริปภูหินร่องกล้า - น้ำตกหมันแดงมาฝากครับ

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 14:11:41] 58.8.71.75
Page 1 [ 2 ]


Comment : 1


ทริปนี้เนื่องจากปริมาณผู้ร่วมเดินทางน้อย ผมและเพื่อน รวม 3 ชีวิต เลยต้องงัดอาชีพเก่าขึ้นมาใช้
โบกครับโบก โบกรถไปเรื่อยๆ

เราเริ่มต้นจากการเดินทางโดยรถทัวร์จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 มุ่งหน้าสู่ จ.พิษณุโลก
กันตั้งแต่เย็นวันศุกร์ ไปถึงขนส่งเมืองพิษณุโลก ก็ตี 4 กว่าๆ จากนั้นก็ขึ้นรถโดยสารปรับอากาศ
พิษณุโลก-นครไทย เที่ยวแรกที่ออกตั้งแต่ตี 5 ถึง อ.นครไทยราวๆ 7 โมง
จากนั้นเราก็จ้างรถสามล้อให้ไปส่งที่ทางแยกที่จะมุ่งหน้าสู่ อช.ภูหินร่องกล้า
ว่าแล้วเราก็เริ่มตั้งฐานทัพโบกกันที่นี่แหละครับ และนี่คือจุดเริ่มต้นของทริปนี้
ดูซิว่าเราโบกไปที่ไหนกันมาบ้าง
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 14:14:45] 58.8.71.75

Comment : 2


เริ่มต้นกันที่นี่ก่อนเลยครับ ลานหินแตก





บนลานหินสีเทา ที่กว้างขวางกว่า 40 ไร่แห่งนี้ มีรอยแตกเป็นร่องลึก
มากมาย กระจัดกระจายทั่วลานหิน



บางร่องแตกพอที่จะข้ามไปได้ แต่บางร่องก็แตกกว้าง และลึกจนต้องทำสะพานข้ามกันอย่างที่เห็น
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 14:35:48] 58.8.71.75

Comment : 3


ดูรอยแตกกันชัดๆ อีกที
บนลานหินแห่งนี้มีรอยแตกกระจายอยู่ทั่วไป มีการเก็บสถิติว่าร่องหินที่แตกลึกที่สุดนั้น มีความลึกถึง 20
เมตร และกว้างถึง 2 เมตร เลยทีเดียว



ใครจะมาเดินเที่ยวก็คงต้องใช้ความระมัดระวังกันหน่อยนะครับ
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 14:42:29] 58.8.71.75

Comment : 4


ด้วยรูปลักษณ์อันแปลกตาของลานหินแห่งนี้ ทำให้ใครๆ ต่างพากันเรียกหินของที่นี่ว่า หินร่องอ้า
ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนมาเป็นภูหินร่องกล้า ดังปัจจุบัน ดังนั้นที่มาของชื่อภูหินร่องกล้าแห่งนี้
จึงมีที่มาจากลานหินแห่งนี้นั่นเอง







ลานหินแห่งนี้เคยถูกบันทึกลงในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ ในนามของ ลานหินเลือด ในปี พ.ศ.2515
ระหว่างการสู้รบของฝ่ายรัฐบาล กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ
ผกค.



การสู้รบในครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นำมาสู่ที่มาของ ลานหินเลือด แห่งนี้นั่นเอง
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 15:03:10] 58.8.71.75

Comment : 5


ในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ เป็นช่วงที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้ เพราะที่นี่จะเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าสีสันสดใส



เอื้องนวลจันทร์ หรือเอื้องดินลาว สีเหลืองสด ที่ออกดอกบานสะพรั่งรับสายฝนในฤดูกาลนี้





Post by : Naitredtrei [2007-10-02 15:18:34] 58.8.71.75

Comment : 6


ดอกเอนอ้าขน ก็เป็นอีกพันธุ์ไม้หนึ่งที่มีมากในช่วงนี้



Post by : Naitredtrei [2007-10-02 15:21:48] 58.8.71.75

Comment : 7




ดอกเทียนน้อย สีชมพูหวานยามต้องแสง
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 15:27:52] 58.8.71.75

Comment : 8


ชมดอกไม้กันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่ที่ทำการอุทยานฯ เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่
และรถที่จะนำเราเดินทางสู่ น้ำตกหมันแดง 1 ในน้ำตกในฝันของนักเดินทางหลายคน



หนึ่งในอนุสรณ์จากการสู้รบบนภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าที่ทำการอุทยานฯ
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 15:38:39] 58.8.71.75

Comment : 9


จุดเริ่มต้นของการเดินเท้าเข้าสู่น้ำตกหมันแดง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ออกไปราว 22 กม.
ตามเส้นทางสู่ อ.หล่มสัก

การเดินเท้าเข้าสู่น้ำตกหมันแดงใช้เวลาค่อนข้างมาก ดังนั้นผู้ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวควรมาแต่เช้า
และต้องเตรียมน้ำ และอาหารเข้าไปด้วยนะครับ ที่สำคัญต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางเสมอ
อย่าเดินเข้าไปเองนะครับ เพราะอาจหลงทางได้ง่ายๆ เลยทีเดียว

ในภาพ คือ ปากทางเข้าสู่เส้นทางเดินเท้าไปยังน้ำตกหมันแดง ( ดูแทบไม่ออกเลยว่าเป็นทางเข้าตรงไหน )
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 15:47:57] 58.8.71.75

Comment : 10


เดินเท้าเข้าป่า มาได้ระยะหนึ่ง เราก็มาพบกับ พันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง
ซึ่งในประเทศไทยพบที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ เฟิร์นซิกแซก หรือเฟิร์นใบศร



เฟิร์นซิกแซก หรือเฟิร์นใบศร ถูกค้นพบครั้งแรก เมื่อปี 2538 จัดเป็นพันธุ์ไม้หายาก
ที่พบที่นี่แห่งเดียวในประเทศไทยเท่านั้นนะครับ



ความพิเศษของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ก็ คือ มีก้านใบอยู่ที่ด้านบนของใบ แตกต่างไปจากเฟิร์นชนิดอื่น
ที่ปกติจะต้องมีก้านใบอยู่ที่ด้านล่าง
ดังนั้น เมื่อไปชมเฟิร์นชนิดนี้ จะเห็นได้ว่าด้านบนที่หงายออกนั้น
มีหน้าตาเหมือนด้านล่างในเฟิร์นชนิดอื่น ขณะที่ด้านล่าง เมื่อไม่มีก้านใบ ทำให้หน้าตาของมัน
เหมือนด้านบนในเฟิร์นชนิดอื่น ( เข้าใจกันมั๊ยเนี่ย 555 )



ดูกันชัดๆ อีกทีจะได้เข้าใจ นี่คือ ด้านบน



และนี่คือ ด้านล่าง

แปลกมะ
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 16:03:10] 58.8.71.75

Comment : 11


เดินต่อไปอีกซักระยะ ก็เข้าสู่เนินมหาโหดของที่นี่ เป็นเนินที่มีความชันมากๆ
ที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นเนินวัดใจก่อนจะเข้าถึงจุดหมายปลายทางที่หมันแดงเลยทีเดียว



เมื่อลงจากเนินมาได้ เราก็มาถึงจุดแวะพัก ชมวิวทิวทัศน์



เบื้องหน้าของเรา คือ ภูลมโล

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 16:17:42] 58.8.71.75

Comment : 12


ภูลมโล เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงของ อช. มีความสูง ถึง 1,614 เมตร จากระดับน้ำทะเล



ในอดีตยอดภูที่มีความสูงนี้ เคยถูกใช้เป็นที่ตั้งของฐานปืนใหญ่ ที่ใช้ยิงเข้าใส่ภูหินร่องกล้า
และเป็นจุดที่มีการสู้รบรุนแรงที่สุดจุดหนึ่งในสมรภูมิแห่งนี้

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 16:26:08] 58.8.71.75

Comment : 13


เดินลัดเลาะต่อมาซักระยะ ที่สุดเราก็มาถึง น้ำตกหมันแดง ชั้นที่ 1



สายน้ำจาก น้ำตกหมันแดงนี้ เป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำลำน้ำหมัน ที่ไหลผ่าน จ.เลย
ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขงนั่นเอง
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 16:40:47] 58.8.71.75

Comment : 14


น้ำตกหมันแดง ชั้นที่ 2

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 16:43:35] 58.8.71.75

Comment : 15


น้ำตกหมันแดง ชั้นที่ 3 ชั้นนี้มีแสงเยอะมาก เลยถ่ายภาพของน้ำตกแบบเกรี้ยวกราดมาฝากแทน

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 16:46:45] 58.8.71.75

Comment : 16


น้ำตกหมันแดง ชั้นที่ 4 น้ำตกชั้นนี้สวยดี เลยเก็บภาพมาฝากเยอะหน่อย





Post by : Naitredtrei [2007-10-02 16:51:44] 58.8.71.75

Comment : 17


และก็มาถึง น้ำตกหมันแดง ชั้นที่ 5 ชั้นที่หลายคนบอกว่าสวยที่สุด แต่อยากบอกว่าถ่ายได้ยากมาก
เพราะละอองน้ำเยอะมาก ซ้ำช่วงเวลาที่ผมไปยังมีแสงส่องลงมา ทำให้ถ่ายได้ยากขึ้นอีก
ภาพที่ได้มาจึงอาจไม่ค่อยสวยดั่งใจเท่าไหร่





ปกติแล้ว ที่น้ำตกชั้นที่ 5 นี้ ในช่วงเดือน สิงหาคม จะมีกอของดอกลิ้นมังกร สีชมพูสวยบานสะพรั่ง
แต่เนื่องจากพวกผมมากันช้าไป เจ้าดอกลิ้นมังกร มันรอพวกผมไม่ไหวเลยเหี่ยวไปซะก่อน อดได้มุมสวยๆ
ของน้ำตกกับดอกลิ้นมังกรเลย ว้า! แย่จัง

จำไว้นะครับใครที่อยากจะมาดูดอกล้นมังกรด้วย ควรจะมาช่วงกลางเดือนสิงหาคม จะดีที่สุด
เพราะเจ้าดอกไม้นี้บานไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำก็จะเริ่มเฉาแล้วครับ
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 16:59:26] 58.8.71.75

Comment : 18


น้ำตกหมันแดง ชั้นที่ 6



น้ำตกหมันแดง ชั้นที่ 7

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 17:08:49] 58.8.71.75

Comment : 19


น้ำตกหมันแดง ชั้นที่ 8 ชั้นนี้เป็นอีกชั้นหนึ่งที่ได้รับการขนานนามว่าสวยงามกว่าชั้นอื่นๆ

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 17:17:51] 58.8.71.75

Comment : 20


อีกมุมหนึ่งของน้ำตกชั้นที่ 8



Post by : Naitredtrei [2007-10-02 17:21:06] 58.8.71.75

Comment : 21


มาดูดอกไม้ที่พบ ริมลำธารกันซักหน่อย ก่อนกลับจากน้ำตก



นี่แหละ หน้าตาของเจ้าดอกลิ้นมังกร สีชมพู ที่ว่า ทว่าตอนนี้มันเริ่มเฉาเสียแล้ว
แถมเหลืออยู่แค่ 2 ดอกแค่เนี้ยะ



อันนี้ดอกอาไร ไม่รู้แฮะ ??
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 17:30:40] 58.8.71.75

Comment : 22


ออกมาจากป่ากันแล้ว
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 17:34:15] 58.8.71.75

Comment : 23


พอออกจากป่ามาได้ พวกเราก็ขึ้นรถกลับที่ทำการอุทยานฯ ระหว่างทางเจ้าหน้าที่
ก็มาพวกเรามาแวะเที่ยวกันอีกหนึ่งจุด ที่...
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 17:38:44] 58.8.71.75

Comment : 24


กระท่อมปีกไม้ 31 หลัง ท่ามกลางความร่มรื่นของไม้ใหญ่ ที่นี่ โรงเรียนการเมืองและการทหาร
ศูนย์กลางทางความคิดของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย



ที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่อบรมให้การศึกษาตามแนวทางลัทธิคอมมิวนิสต์และเป็นกองบัญชาการของหัวหน้าหน่วย
ผกค. ประกอบไปด้วยบ้านพักฝ่ายพลเรือน ฝ่ายพลาธิการ ฝ่ายสื่อสาร สถานพยาบาล บ้านพัก และโรงพิมพ์ขนาดเล็ก

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 17:54:20] 58.8.71.75

Comment : 25


บ้านพักนายคำหลาย 1 ในนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ที่หลบหนีเข้ามารวมตัวกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
เป็นผู้ควบคุมดูแลเรื่องอาวุธ



ซากรถแทรกเตอร์ ของบริษัทพิฆเนศ ซึ่งถูก ผกค. ยึดมาระหว่างการตัดถนนสายนครไทย-ด่านซ้าย
โดยนำลูกปืนล้อรถไปใช้ในการสร้างกังหันน้ำ
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 18:03:43] 58.8.71.75

Comment : 26


บริเวณฝั่งตรงข้าม เยื้องกับโรงเรียนการเมืองและการทหาร ไปเล็กน้อย
เป็นที่ตั้งของกังหันน้ำ

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 18:09:23] 58.8.71.75

Comment : 27


กังหันน้ำ ชิ้นนี้ ถูกออกแบบโดยโดยนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่หนีจากกรุงเทพฯ
มาเข้าร่วมกับ
ผกค. หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เป็นการรวมเอาธรรมชาติ กับหลักวิชาการ และอุปกรณ์เท่าที่หาได้
มาใช้ให้เกิดประโยชน์

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 18:21:02] 58.8.71.75

Comment : 28


หลักการทำงานของมันก็คือ ผันน้ำจากน้ำตกเล็ก ๆ ผ่านรางน้ำ ที่ทำจากไม้มายังตัวกังหัน
แล้วอาศัยแรงน้ำหมุนกังหันที่ต่อเข้ากับครกกระเดื่องตำข้าว ช่วยในการสีข้าวนั่นเอง



สายน้ำที่ถูกนำพลังการไปใช้ในการหมุนกังหัน
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 18:23:14] 58.8.71.75

Comment : 29


เที่ยวกันจนจุใจแล้ว ก็ได้เวลา กลับเข้าสู่ที่พัก และนี่ คือ ที่พักของเราในทริปนี้ บ้านพักของอุทยานฯ
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณร้านค้า และร้านอาหาร ( ทริปนี้ขออนุญาต แนะนำที่พักหน่อยแล้วกันนะครับ )





2 ห้องนอน



1 ห้องน้ำ
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 18:34:32] 58.8.71.75

Comment : 30


กับอาหารมื้ออร่อย

Post by : Naitredtrei [2007-10-02 18:37:26] 58.8.71.75

Comment : 31


ปิดท้ายวันแรกด้วยแสงสุดท้ายยามเย็น
Post by : Naitredtrei [2007-10-02 18:40:19] 58.8.71.75

Comment : 32


เช้าวันใหม่ เราตื่นไปตั้งป้อมโบกรถกันแต่เช้าตรู่ แต่ก็ต้องผิดหวัง ไม่มีรถผ่านมาซักคัน รอไปรอมา
ก็เลยเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่สะพานมรณะ (ประตูวัว)



สะพานมรณะ (ประตูวัว) เป็นช่องหินแคบๆ มีประตูไม้กันไว้เพื่อให้วัวผ่านได้ทีละตัว
เมื่อเดินเข้าทางด้านขวาจะพบสะพานหินธรรมชาติสวยงาม ซึ่งมีชื่อว่า สะพานมรณะ

ที่เรียกว่าสะพานมรณะ ก็เพราะว่า ในอดีตเมื่อทหารไทย เมื่อบุกขึ้นมาและผ่านประตูวัว ผกค.
ตั้งรบอยู่บนสะพานหินยิงทหารไทยคนแล้วคนเล่า ทหารไทยจะไม่ผ่านประตูวัวก็ไม่ได้
เพราะด้านอื่นเป็นหน้าผาทั้งสิ้น ที่แห่งนี้จึงถูกขนานนามว่า
"ประตูวัวหรือสะพานมรณะ"
Post by : Naitredtrei [2007-10-03 10:19:51] 58.8.71.75

Comment : 33


ถึงแม้สถานที่แห่งนี้จะมีประวัติที่น่าเศร้าและน่ากลัว แต่ผมว่าบริเวณ
ประตูวัว-สะพานมรณะแห่งนี้มีมุมที่สวยงามหลายมุมซ่อนอยู่ จึงเก็บภาพที่ผมชอบ
จากบริเวณนี้มาฝากให้ชมกัน











Post by : Naitredtrei [2007-10-03 10:25:12] 58.8.71.75

Comment : 34


จากประตูวัว-สะพานมรณะ เราโบกรถไปลงปากทางแยกเข้าสู่ ลานหินปุ่ม และผาชูธง
จากนั้นจึงเดินเท้าเข้าสู่ลานจอดรถ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของจุดหมายต่อไปของเราในวันนี้
ดินแดนแห่งโลกที่สาม

ในดินแดนแห่งโลกที่สามนี้ มีเส้นทางเดินเท้าเป็นวงกลม โดยเริ่มจาก สุสานนักรบ ทปท. – ลานหินปุ่ม –
ผาชูธง – ลานเอนกประสงค์ – สำนักอำนาจรัฐ – และหลุมหลบภัยทางอากาศ

Post by : Naitredtrei [2007-10-03 10:29:52] 58.8.71.75

Comment : 35


เส้นทางเดินเท้าบรเวณนี้ เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้งามเต็มลานหิน ว่าแล้วก็เลยจัดภาพดอกไม้ป่า
จากข้างทางมาฝากกัน



เริ่มต้นกันด้วย ดงดอกเทียนน้ำ สีชมพูสวยสด





ดอกเทียนน้ำ


Post by : Naitredtrei [2007-10-03 10:35:41] 58.8.71.75

Comment : 36


อันนี้ต้นอะไรไม่รู้ แต่มีน้ำค้างเต็มเลย สวยดี เลยเก็บมาฝาก



Post by : Naitredtrei [2007-10-03 10:39:51] 58.8.79.5

Comment : 37


เดินเข้ามาหน่อย ก็จะเจอกับดงของดอกเอนอ้าขน







Post by : Naitredtrei [2007-10-03 10:48:17] 58.8.79.5

Comment : 38




และอีกครั้งกับเอื้องนวลจันทร์ หรือเอื้องดินลาว สีเหลืองสดใส



Post by : Naitredtrei [2007-10-03 10:53:33] 58.8.79.5

Comment : 39


สรัสจันทร หรือหญ้าหนวดเสือ สีม่วงสด



ส่วนอันนี้ อารูมิไรท์? อีกแล้ว ไม่รู้มันต้นอะไร แต่สีม่วงสวยดีเหมือนกัน
Post by : Naitredtrei [2007-10-03 10:56:07] 58.8.79.5

Comment : 40


เปราะภู ก็ยังพอมีเหลือให้ได้ยลโฉมกันอยู่

Post by : Naitredtrei [2007-10-03 11:00:56] 58.8.79.5

Comment : 41


ปิดท้ายบริเวณนี้ด้วย ดงดอกเทียนน้ำ กันอีกที



Post by : Naitredtrei [2007-10-03 11:02:39] 58.8.79.5

Comment : 42


เดินกันต่อ จากปากทาง เมื่อผ่านดงดอกไม้มาแล้ว เราก็จะพบกับสถานที่แรก
สุสานทหาร ทปท. ( สุสานนักรบทหารปลดแอกแห่งประเทศไทย )

ที่นี่เป็นบริเวณที่ฝังร่างทหารฝ่าย พคท. ที่เสียชีวิตบนสมรภูมิภูหินร่องกล้า ปัจจุบันเป็นป่ารก
แต่มีบริเวณที่กันไว้สำหรับวางเครื่องสักการะ เพราะยังมีชาวบ้านมาเซ่นไหว้ดวงวิญญานกันอยู่



สุสานนักรบมี 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นสุสานที่ใช้ฝังศพชาวม้งที่เสียชีวิตจากการสู้รบกับทหาร
ฝ่ายรัฐบาล




อีกส่วน คือ สุสานของผู้กองสมวิทย์ ชาวม้งคนแรก ที่นำลัทธิคอมมิวนิสต์จากเวียดนาม
มาเผยแพร่บนภูหินร่องกล้า เป็นผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์บนภูหินร่องกล้า

เสียชีวิตจากการถูกลอบยิง ในปี พ.ศ. 2522 เนื่องจากความขัดแย้งกันภายในพรรค
Post by : Naitredtrei [2007-10-03 11:12:18] 58.8.79.5

Comment : 43


จากสุสานทหาร ทปท. เราเดินมุ่งหน้าสู่ ลานหินปุ่ม เส้นทางจากสุสานทหาร ทปท. สู่ลานหินปุ่มนั้น
ส่วนใหญ่เป็นผืนป่าสลับกับลานหิน ทำให้เราได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ 2 ข้างทางได้ตลอด



ทั้งธารน้ำใส



และความเขียวชอุ่มของพรรณไม้
Post by : Naitredtrei [2007-10-03 11:22:46] 58.8.79.5

Comment : 44


ทางเดินช่วงสุดท้ายก่อนถึงลานหินปุ่ม เป็นป่าทึบตลอด 2 ข้างทาง



ช่องหิน ใกล้ทางออก



และสะพานไม้ที่เชื่อมระหว่างผืนป่ากับลานหินปุ่ม
Post by : Naitredtrei [2007-10-03 11:27:40] 58.8.79.5

Comment : 45


ถึงแล้ว ลานหินปุ่ม



ลานหินปุ่ม เป็นลานหินกว้าง ลักษณะคล้ายกับลานหินแตก แต่มีความแตกต่างที่ตรงบริเวณหน้าผา
ที่มีหินรูปลักษณ์แปลกตาขึ้นเป็นปุ่มกลมกระจายอยู่เต็มลานหิน
ปุ่มเหล่านี้มีลักษณะกลมมนและมีขนาดใกล้เคียงกันคือ สูงประมาณ 15-25 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางราว 30 ซม.



ณ ลานหินปุ่มแห่งนี้ ในอดีตถูกใช้เป็นสถานที่พักฟื้นของ ผกค. ที่บาดเจ็บ
เนื่องจากเป็นลานหินที่อยู่บนหน้าผาซึ่งมีลมพัดเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน และอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลของ
พคท.
Post by : Naitredtrei [2007-10-03 11:35:12] 58.8.79.5

Comment : 46


มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะเริ่มสงสัยว่า เจ้าลานหินแตก และลานหินปุ่ม
มันเกิดขึ้นและมีที่มาได้อย่างไร ลองอ่านข้อมูลการเกิด ลานหินแตก พร้อมดูภาพประกอบ
อาจจะช่วยให้เข้าใจมากขึ้นครับ



ส่วนการเกิดลานหินปุ่มนั้น นักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า เกิดขึ้นด้วยสาเหตุเดียวกับลานหินแตก
เพียงแต่เกิดเป็นรอยแตกขนาดเล็กจำนวนมากกว่า
ก่อนจะถูกกัดกร่อนจากน้ำและลมจนกลายเป็นปุ่มกลมมนเช่นปัจจุบัน



สรุปง่ายๆ ก็ คือว่า เมื่อแผ่นดินเกิดการบีบอัดจากทั้ง 2 ด้าน ก็ทำให้แผ่นหินเกิดการคดโค้ง และปริแตก
เป็นรอยแยกขึ้น เกิดเป็นลานหินแตก
ขณะที่รอยแยกเล็กๆ บางรอยก็เกิดถูกการกัดกร่อนจากทั้งกระแสลม และกระแสน้ำเป็นระยะเวลานาน
รอยแยกจึงกลายสภาพไปเป็นปุ่มหิน ที่กลมมน เกิดเป็นลานหินปุ่มในที่สุดนั่นเอง
Post by : Naitredtrei [2007-10-03 11:57:24] 58.8.79.5

Comment : 47


ทีนี้มาชมวิวทิวทัศน์ของผืนป่า เมื่อมองจากลานหินปุ่มกันบ้าง





Post by : Naitredtrei [2007-10-03 12:08:00] 58.8.79.5

Comment : 48


ระหว่างทางจากลานหินปุ่มไปยังผาชูธง ก็มีดอกไม้เล็กๆ ไห้ได้ยลโฉมกัน



ไม่รู้ว่าดอกอะไรบ้าง ลองดูกันเอาเอง ใครรู้ช่วยบอกหน่อยนะครับ

Post by : Naitredtrei [2007-10-03 12:21:30] 58.8.79.5

Comment : 49


เจ้าดอกนี้ก็คุ้นๆ แต่นึกชื่อไม่ออกอ่ะ

Post by : Naitredtrei [2007-10-03 12:24:24] 58.8.79.5

Comment : 50


ถึงซะที ผาชูธง

ผาชูธง เป็นหน้าผาหินสูงชัน มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ในอดีต ผกค.
ใช้ที่แห่งนี้เป็นที่ประกาศชัยชนะที่มีเหนือกองกำลังของรัฐบาลด้วยการขึ้นไปชูธงแดง
ที่มีรูปค้อนและเคียวทุกครั้งที่รบชนะอันเป็นที่มาของชื่อ “ผาชูธง”



ด้วยความสูงชันของหน้าผาที่ยากต่อการขึ้น จึงเป็นจุดที่มีการวางกำลังเบาบางที่สุด
การเข้ายึดพื้นที่บริเวณนี้ ทหารนาวิกโยธิน จึงต้องตอกทอยขึ้นมาตามหน้าผาแห่งนี้ด้วยความยากลำบาก
ก่อนจะเข้าโจมตี

ทุกวันนี้ผาชูธงเป็นที่ตั้งของธงชาติไทย ที่โบกสะบัด ประกาศศักดิ์ศรีสง่างามเหนือยอดภูผา



ทิวทัศน์อีกมุมหนึ่ง จากยอดผาชูธง

Post by : Naitredtrei [2007-10-03 12:30:50] 58.8.79.5

Page 1 [ 2 ]

Reply

Picture :
You can not Allow register ClickHere | login

Not readable? Change text. *
Name : *
E-mail :
Tel : ICQ :
Detail :
Very Happy Smile Sad Surprised
Shocked Confused Cool Laughing
Mad Razz Embarassed Crying or Very sad
Evil or Very Mad Twisted Evil Rolling Eyes Wink
Exclamation Question Idea Arrow
*

  *

dentist bangkok | implant bangkok | veneer bangkok | implant thailand | dentist sukhumvit | dental sukhumvit | fast braces bangkok | tooth whitening bangkok |

 
 
     
 
 
eXTReMe Tracker